ตลาดบิตคอยน์(BTC) กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน หลังจากที่นักลงทุนระยะยาวเริ่มทยอย *ขายทำกำไร* ในปริมาณมาก ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับครั้งที่เคยเห็นในช่วงจุดสูงสุดของตลาดขาขึ้นก่อนหน้า การเคลื่อนไหวนี้ยังสอดคล้องกับจังหวะที่แรงซื้อเริ่มแผ่วลงภายหลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย บ่งชี้ถึง *ความเหนื่อยล้าของนักลงทุน* ในวงกว้าง
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนอย่าง Glassnode ระบุว่า นักลงทุนระยะยาวได้ทำการขายบิตคอยน์เพื่อทำกำไรไปแล้วกว่า 3.4 ล้านเหรียญ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 156,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 216.8 ล้านล้านวอน พร้อมกันนี้ยังพบว่าเงินทุนไหลเข้าสู่กองทุน ETF บิตคอยน์สปอตก็เริ่มชะลอลง ทำให้แรงกดดันต่อราคาเพิ่มขึ้นอีก
ในสภาพการณ์เช่นนี้ บิตคอยน์ได้หลุดแนวรับที่สำคัญลงมา จากข้อมูลของ TradingView เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์ในกระดาน Coinbase ลดลงแตะที่ระดับ 108,700 ดอลลาร์ หรือราว 1.51 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 4 สัปดาห์ แม้ยังไม่หลุดระดับ 107,500 ดอลลาร์ (ราว 1.49 ล้านบาท) ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 1 กันยายน แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะกลับไปทดสอบแนวรับดังกล่าวอีกครั้ง ท่ามกลางแรงขายที่ยังคงมีอยู่มาก
มาร์คัส ทีเลน(Markus Thielen) หัวหน้าฝ่ายวิจัยจาก 10x Research แสดงความเห็นในหมายเหตุถึงนักลงทุนว่า “แรงดีดตัวจากแนวรับรอบที่แล้วแสดงให้เห็นแล้วว่าอ่อนแรงเกินไป และเมื่อราคากลับเข้าใกล้บริเวณนั้นอีกครั้ง การ *ขายตัดขาดทุน* รอบใหม่ก็มีโอกาสเกิดขึ้น” เขายังเสริมอีกว่า แม้นักลงทุนจำนวนไม่น้อยยังตั้งความหวังกับการ *พุ่งขึ้นในช่วงไตรมาส 4* แต่ “สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจริงอาจไม่ใช่การดีดตัวแรง แต่เป็นการปรับฐานรอบใหม่แทนก็ได้”
ท่ามกลางความไม่ชัดเจนในทิศทางราคาของบิตคอยน์ ตลาดอาจต้องเผชิญกับ *ความผันผวนและความไม่แน่นอน* ต่อไปอีกระยะ โดยแรงขายของนักลงทุนรายใหญ่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงสัญญาณการชะลอตัวของกระแสเงินทุนจาก ETF บ่งบอกว่า บิตคอยน์อาจต้องเจอ *คลื่นปรับฐานอีกระลอก* ก่อนเข้าสู่แนวโน้มรอบถัดไปอย่างเต็มตัว
ความคิดเห็น 0