บิตคอยน์(BTC) กำลังกลับมาสร้างรูปแบบกราฟ ‘คัพ แอนด์ แฮนเดิล’ ที่เคยปรากฏในวัฏจักรขาขึ้นก่อนหน้าอีกครั้ง กลายเป็นที่จับตามองของตลาดว่ากระแส ‘การขยายตัวของภาวะกระทิง’ อาจกำลังเริ่มต้นขึ้นบ้างแล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์แนวรับหลักไว้ที่ 90,000–92,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.25–1.28 ล้านบาท) และกำหนดเป้าหมายขาขึ้นที่ระดับ 123,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.71 ล้านบาท) ขึ้นไป
นักวิเคราะห์สายคริปโต เมอร์เลน เดอะ เทรดเดอร์(Merlijn The Trader) ระบุผ่านโพสต์ใน X ว่ารูปแบบราคาของบิตคอยน์ในตอนนี้คล้ายกับแนวโน้มในอดีต โดยในช่วงปี 2015–2017 ปรากฏ ‘ราวน์ดิ้ง บอตทอม’, ปี 2018–2020 มีรูปแบบ ‘อดัม แอนด์ อีฟ’ และช่วงปี 2021–2024 บิตคอยน์มีกราฟลักษณะ ‘คัพ แอนด์ แฮนเดิล’ ซึ่งทุกครั้งที่เกิดรูปแบบเหล่านี้ ราคาได้พุ่งขึ้นโดดเด่น นอกจากนี้ เมอร์เลนยังชี้ว่าเมื่อดัชนี RSI (Relative Strength Index) ทะลุระดับ 70 มักเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘การจุดระเบิด’ ราคา
เขาย้ำว่า “กลยุทธ์ของบิตคอยน์ยังคงเหมือนเดิม ทุกครั้งที่เกิดรูปแบบลักษณะเดิม ราคามักทะยานขึ้นอย่างรุนแรง” พร้อมมองว่ารูปแบบปัจจุบันอยู่ในช่วงท้ายของการก่อตัว และอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของคลื่นขาขึ้นรอบใหม่
ด้านไมเคิล ฟาน เดอ ปอป(Michaël van de Poppe) วิเคราะห์ว่าบิตคอยน์สามารถยืนเหนือแนวรับที่ 111,600 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.55 ล้านบาท) ได้สำเร็จ พร้อมระบุว่าโซนราคา 115,00–112,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.55–1.56 ล้านบาท) เป็นโซนซื้อที่แข็งแกร่ง โดยประเมินว่าหากราคายังทะยานขึ้นต่อไป อาจไปทดสอบระดับ 114,755 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.59 ล้านบาท), 116,813 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.62 ล้านบาท) และแนวต้านช่วง 118,000–119,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.64–1.68 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ฟาน เดอ ปอปยังกล่าวว่า โซนราคา 100,740–103,190 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.40–1.44 ล้านบาท) เคยเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงในอดีต จึงอาจกลายเป็นโอกาสในการเข้าสะสมหากเกิดการปรับฐาน
ขณะที่เท็ด พิลโลวส์(Ted Pillows) ยังชี้ให้เห็นว่าเส้นแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวของบิตคอยน์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราว 90,000–92,000 ดอลลาร์ ก็ยังคงเป็นระดับสนับสนุนหลักตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา โดยช่วงราคานี้ยังสอดคล้องกับ ‘CME Gap’ ที่เกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ตลาดให้ความสนใจเป็นพิเศษ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ตามรายงานของ CryptoPotato ที่อ้างอิงข้อมูลจากบริษัทวิจัย ซานติมเมนต์(Santiment) พบว่า นักลงทุนของไบแนนซ์(Binance) ซึ่งก่อนหน้านี้เน้นการเปิดสถานะชอร์ต ได้เปลี่ยนมาเปิดสถานะลอง (ซื้อ) มากขึ้นอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่านักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบัน กำลังเข้าสู่โหมดเตรียมพร้อมรับการฟื้นตัวของตลาด
เมื่อพิจารณาจากรูปแบบกราฟที่คล้ายอดีต, การยืนเหนือแนวรับสำคัญ และการเคลื่อนไหวที่คึกคักในตลาดอนุพันธ์ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนหนุนความคาดหวังว่า บิตคอยน์จะสามารถเข้าสู่ช่วงขาขึ้นอีกครั้งในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0