ซามานีชี้ โซลานา(SOL) คือกุญแจสู่การเปลี่ยนผ่านตลาดทุนโลกสู่บล็อกเชน

แม้อีเธอเรียม(ETH)จะเริ่มต้นจากการเป็นผู้นำในโลกของการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ทว่าสถานการณ์ในปี 2025 ยังคงแสดงให้เห็นถึงความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับ ‘ปัญหาด้านการขยายเครือข่าย’ ขณะที่กระแสในแวดวงคริปโตก็เริ่มหันมาให้ความสนใจกับโซลานา(SOL) โดยมีหลายฝ่ายมองว่าแพลตฟอร์มนี้คือคำตอบที่พร้อมที่สุดสำหรับการย้ายโครงสร้างพื้นฐานของตลาดทุนโลกเข้าสู่เทคโนโลยีบล็อกเชน

หนึ่งในผู้ที่แสดงมุมมองดังกล่าวคือ ไคล์ ซามานี(Kyle Samani) ประธานของบริษัทฟอร์เวิร์ด อินดัสตรีส์ ที่ชี้ว่าอีเธอเรียมมีข้อจำกัดทางเทคนิคซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาในระดับมหภาค และเสนอว่าโซลานาเป็นบล็อกเชนเพียงหนึ่งเดียวในเวลานี้ที่มีศักยภาพพอจะผลักดันให้การเปลี่ยนผ่านเชิงระบบของตลาดทุนเกิดขึ้นได้จริง ความเห็นของเขาได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น เนื่องจากซามานีเพิ่งถูกเรียกว่า ‘ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) แห่งโซลานา’ หลังบทบาทที่เพิ่มขึ้นในการผลักดันกลยุทธ์ของบล็อกเชนนี้ให้ก้าวข้ามจากกลยุทธ์แบบองค์กรทั่วไปไปสู่วิสัยทัศน์ระยะยาว

ปัจจุบัน ฟอร์เวิร์ด อินดัสตรีส์กำลังดำเนินโครงการสำคัญบนโซลานาเพื่อผลักดันการ ‘โทเคนไรซ์หุ้น’, ‘กำกับดูแลโดยใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของ’, และ ‘การจ่ายเงินปันผลรวมถึงการระดมทุน’ ทั้งหมดให้เกิดขึ้นบนเครือข่ายบล็อกเชน ซามานีกล่าวว่า “เราต้องการแสดงให้เห็นว่าองค์ประกอบเหล่านี้สามารถทำงานจริงบนเชนได้” พร้อมขยายความว่า จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่คำแถลงของ พอล แอตกินส์(Paul Atkins) ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) ของสหรัฐ ซึ่งเคยกล่าวถึงโครงการที่ชื่อว่า ‘โปรเจกต์คริปโต’ ว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นให้ตลาดทุนสหรัฐเข้าสู่โลกบล็อกเชน ความเห็นของซามานีชี้ว่าเรื่องนี้เป็น ‘สัญญาณ’ ว่าการโยกย้ายโครงสร้างพื้นฐานของระบบการเงินแบบดั้งเดิมไปยังบล็อกเชนกำลังจะเริ่มต้น

อย่างไรก็ตาม โซลานายังต้องพิสูจน์ตัวเองว่าจะเป็นผู้ท้าชิงวอลสตรีทได้จริงหรือไม่ ซามานีเปิดเผยในบทสัมภาษณ์ถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนา ‘กองทุน ETF ที่มีฟีเจอร์สเตกกิ้ง’ ซึ่งสะท้อนการพยายามเชื่อมโลกการเงินใหม่เข้ากับระบบการลงทุนเดิมจากภายใน และยังกล่าวถึงความเสี่ยงในการขยายระบบบริการของโซลานาในช่วงตลาดหมี โดยให้ความสำคัญกับศักยภาพในการ ‘ขยายระบบชำระบัญชี’ ในระดับนานาชาติเป็นจุดแข็งสำคัญ แต่ก็ไม่ละเลยปัจจัยความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นกับตลาดการเงินแบบเก่า

บทสัมภาษณ์ฉบับเต็มของซามานีสามารถรับชมได้ทางช่อง YouTube อย่างเป็นทางการของ Cointelegraph ซึ่งเขาได้พูดถึงสถานะล่าสุดของอีเธอเรียม, ตัวอย่างเชิงปฏิบัติของการโทเคนไรซ์หุ้น และศักยภาพที่แท้จริงของโซลานาในการกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของตลาดทุนโลก

ในอีกด้านหนึ่ง ภายหลังเกิดประเด็นว่ารัฐบาลสหรัฐถือครองบิตคอยน์(BTC) เป็นกลยุทธ์ระยะยาวหรือไม่ แซมสัน โมว์(Samson Mow) ได้แสดงความเห็นเตือนว่า “สหรัฐอาจถูกแย่งตำแหน่งผู้นำด้านบิตคอยน์ของโลกโดยประเทศอื่นๆ ผ่านการพัฒนากองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติด้วยคริปโต” ความเห็นนี้สะท้อนความเข้าใจร่วมของอุตสาหกรรมบล็อกเชนที่เชื่อว่าสินทรัพย์ดิจิทัลถูกผูกโยงอย่างแน่นแฟ้นกับ ‘ความมั่นคงแห่งชาติ’ และ ‘อำนาจอธิปไตยทางเศรษฐกิจ’ ของแต่ละประเทศ