ตลาดคริปโตเผชิญแรงกดดัน ราคาต่ำลง 3% หลัง Bybit ถูกแฮ็ก
ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยมูลค่าตลาดรวมลดลง 3% ลงมาแตะระดับ 3.1 ล้านล้านดอลลาร์(ประมาณ 446.4 ล้านล้านวอน) ความกังวลหลักมาจากเหตุการณ์แฮ็กกระดานเทรด Bybit และการไหลออกของเงินทุนจากผลิตภัณฑ์การลงทุนคริปโต
Bybit สูญเสียคริปโตมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์(ประมาณ 2.16 ล้านล้านวอน) ซึ่งกระตุ้นให้เกิดแรงกดดันขายทั่วตลาด นักลงทุนแสดงความกังวล ส่งผลให้ ‘อีเธอเรียม(ETH)’ ร่วงเกือบ 5% ลงต่ำกว่าระดับ 2,700 ดอลลาร์(ประมาณ 3.89 ล้านวอน) ขณะที่ ‘บิตคอยน์(BTC)’ และ ‘โซลานา(SOL)’ ก็ปรับตัวลดลง 0.8% และ 9% ตามลำดับ
ตลาดฟิวเจอร์สก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการบังคับปิดสถานะมูลค่ารวมกว่า 268 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 38.59 พันล้านวอน) ซึ่งรวมถึง ‘ETH’ มูลค่า 40.13 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 5.77 พันล้านวอน) และ ‘BTC’ มูลค่า 21.4 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 3.08 พันล้านวอน) โดยเฉพาะในกระดานเทรด OKX มีการล้างพอร์ตคำสั่งเดียวของคู่ ‘ETH/USDT’ มูลค่า 1.41 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 200 ล้านวอน) ตอกย้ำสัดส่วนเลเวอเรจที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
นอกจากนี้ ยังมีการไหลออกของเงินทุนจากผลิตภัณฑ์การลงทุนคริปโตอย่างต่อเนื่อง จากรายงานของ ‘CoinShares’ พบว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนถอนเงินกว่า 508 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 73.15 พันล้านวอน) โดย ‘บิตคอยน์’ เพียงอย่างเดียวมีการไหลออกถึง 571 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 82.22 พันล้านวอน)
ปัจจัยสำคัญที่ตลาดกำลังจับตามองคือ ดัชนีค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ที่จะเผยแพร่ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ หากตัวเลขออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจส่งผลให้ตลาดลดคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) และเป็นแรงกดดันเชิงลบต่อตลาดคริปโต
แม้จะมีความตึงเครียดในตลาด แต่บางนักวิเคราะห์ยังมองว่าการปรับฐานครั้งนี้แสดงถึงระดับวุฒิภาวะของตลาดคริปโต ‘QCP Capital’ กล่าวว่า “แม้ Bybit จะถูกแฮ็ก แต่ตลาดสามารถเติมช่องว่างสภาพคล่องได้อย่างรวดเร็ว นี่เป็นสัญญาณของความยืดหยุ่นของตลาดเงินกู้ภายในอุตสาหกรรม” พร้อมเสริมว่า “การตอบสนองของตลาดในปัจจุบันมีแนวโน้มที่มั่นคงกว่าช่วงปี 2022”
ขณะนี้ตลาดกำลังติดอยู่ในช่วงแนวต้านที่ 3.028-3.031 ล้านล้านดอลลาร์(ประมาณ 4,370-4,371 ล้านล้านวอน) และหากแนวรับที่ 3.03 ล้านล้านดอลลาร์(ประมาณ 4,369 ล้านล้านวอน) ไม่สามารถรักษาไว้ได้ อาจมีโอกาสปรับฐานลงต่ำถึง 2.72 ล้านล้านดอลลาร์(ประมาณ 3,917 ล้านล้านวอน) อย่างไรก็ตาม หากสามารถทะลุระดับ 3.2 ล้านล้านดอลลาร์(ประมาณ 4.608 ล้านล้านวอน) ขึ้นไป ก็มีโอกาสกลับสู่แนวโน้มขาขึ้นได้เช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมแนะนำให้นักลงทุนวางแผนอย่างรอบคอบ เนื่องจากตลาดยังคงมีความผันผวนสูง
ความคิดเห็น 0