พอมเปลียโนจวกทองคำไร้ค่า เทียบบิตคอยน์(BTC) สูญเสียอำนาจซื้อถึง 84%

ราคาทองคำในปีนี้พุ่งแซงหน้าบิตคอยน์(BTC)อย่างชัดเจน สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการสินทรัพย์ดิจิทัล โดยล่าสุด แอนโทนี พอมเปลียโน(Anthony Pompliano) นักลงทุนคริปโตชื่อดัง ออกโรงวิจารณ์การลงทุนในทองคำอย่างรุนแรงผ่านแพลตฟอร์ม X เมื่อวันที่ 24 ว่า “ทองคำเป็นทรัพย์สินที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 เพราะสูญเสียอำนาจซื้อเทียบกับบิตคอยน์ไปถึง 84%” พร้อมย้ำว่า “ถ้าเอาชนะมันไม่ได้ ก็ต้องลงทุนในมันแทน”

คำพูดของพอมเปลียโนยิ่งสร้างกระแสถกเถียงมากขึ้น เนื่องจากราคาทองคำในปีนี้ปรับขึ้นกว่า 25% นำบิตคอยน์ที่กำลังเผชิญแรงขายและภาวะผันผวน โดยช่วงนี้ราคาทองอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1979 ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และความกังวลด้านเศรษฐกิจ

ในขณะที่พอมเปลียโนแสดงความเชื่อมั่นในบิตคอยน์ กลับมีเสียงคัดค้านจากชุมชนนักลงทุนไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มสนับสนุนทองคำที่มองว่าเขาเลือกใช้ข้อมูลอย่างมีอคติ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญให้ “ความคิดเห็น” ว่า “การบิดตัวเลขให้ตอบโจทย์สามารถส่งผลให้เข้าใจผิดได้ง่าย” ขณะที่ปีเตอร์ ชิฟฟ์(Peter Schiff) นักลงทุนผู้มีชื่อเสียงด้านทองคำ ก็ออกโรงโต้ว่า “สิ่งที่พอมเปลียโนกล่าวไม่สะท้อนความจริงของทองคำเลย” เขาระบุด้วยว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน ทองคำให้ผลตอบแทนสูงกว่าทั้งอสังหาฯ และดัชนี S&P 500 ซึ่งไม่ใช่เหตุผลให้ต้องวิ่งเข้าหาบิตคอยน์เสมอไป

ต่อมา พอมเปลียโนได้ออกแถลงอีกครั้ง โดยย้ำว่าเขาไม่ได้เกลียดทอง “แต่ข้อมูลที่แสดงว่า บิตคอยน์แซงหน้าทองคำในทุกกรอบเวลานั้นมีอยู่มากมาย” เขาตอกย้ำว่าทองคำอาจมีความเหมาะสมกับนักลงทุนบางกลุ่ม แต่ในเชิงผลตอบแทนที่แท้จริง บิตคอยน์คือทรัพย์สินที่เหนือชั้นกว่า

ปัจจัยเบื้องหลังที่ทำให้ทองคำโดดเด่นในปีนี้ มาจากหลายองค์ประกอบด้านเศรษฐกิจมหภาค เช่น ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัว เงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง และแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ทั้งหมดนี้ส่งเสริมบทบาทของทองในฐานะ ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ โดยเฉพาะเมื่อผนวกกับความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง

แม้ผู้สนับสนุนบิตคอยน์อย่างพอมเปลียโนจะยังคงแสดงความมั่นใจ แต่ประเด็น ‘ทองคำหรือบิตคอยน์’ ไม่ควรถูกตัดสินเพียงจากอัตราผลตอบแทนเท่านั้น ความแตกต่างด้านบทบาท หน้าที่ และความหมายในระบบเศรษฐกิจคือสิ่งที่ควรพิจารณาร่วมด้วย ทองคำยังคงเป็นทรัพย์สินรูปธรรมที่ได้รับการยอมรับจากธนาคารกลางทั่วโลก ในขณะที่บิตคอยน์เป็นสัญลักษณ์ของระบบการเงินแบบกระจายศูนย์

สุดท้ายแล้ว ไม่สามารถฟันธงได้ว่าสินทรัพย์ใด ‘ดีกว่า’ เพราะทั้งทองคำและบิตคอยน์ต่างมีคุณค่าในแบบที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญที่นักลงทุนต้องมีคือมุมมองที่เปิดกว้าง และความสามารถในการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา