เจมี ดายมอนหยุดวิจารณ์บิตคอยน์(BTC) หลังถูกขู่เอาชีวิต

เจมี ดายมอน(Jamie Dimon) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน(JP Morgan) ซึ่งเป็นบุคคลที่วิจารณ์ *บิตคอยน์(BTC)* อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ออกมาเปิดเผยล่าสุดว่าเขาจะ *ไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบิตคอยน์อีกต่อไป* หลังได้รับคำขู่เอาชีวิตจากท่าทีที่ไม่เป็นมิตรของเขาก่อนหน้านี้ ดายมอนกล่าวในบทสัมภาษณ์ว่าเขาถูกข่มขู่ถึงขั้น ‘ฆ่า’ จึงตัดสินใจเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์เพิ่มเติม

ชื่อของดายมอนได้รับความสนใจในวงการคริปโตมาโดยตลอดจากการ *วิจารณ์บิตคอยน์อย่างหนัก* ตั้งแต่ปี 2017 ที่เขาเคยพูดว่าจะไล่พนักงานที่ซื้อขายบิตคอยน์ออกจากบริษัท และในปี 2021 เขาได้ประกาศว่าบิตคอยน์เป็น “*ทรัพย์สินที่ไร้ค่า*” ล่าสุดเขายังเปรียบเทียบว่าเป็นเพียง “แชร์ลูกโซ่” สะท้อนจุดยืนที่แข็งกร้าวอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ดายมอนกลับมีมุมมอง *เชิงบวกต่อเทคโนโลยีบล็อกเชน* โดยเขาระบุว่าบล็อกเชนเป็น “เทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการมาแทนที่ระบบเดิมที่ไร้ประสิทธิภาพ” แม้จะไม่ใช่ทางออกของทุกปัญหา แต่ "บล็อกเชนจะมีบทบาทสำคัญในหลายอุตสาหกรรม" เขาชี้ให้เห็นว่า ‘พับลิกบล็อกเชน’ หรือระบบที่เปิดให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้มีข้อเสียคือ *ความลำบากในการวางกฎและรักษาความสม่ำเสมอ*

เจพีมอร์แกนมีบทบาทอย่างมากในการ *พัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน* มาอย่างต่อเนื่อง บริษัทเคยพัฒนาเครือข่าย ‘ควอรัม’ (Quorum) ซึ่งเป็นบล็อกเชนแบบไพรเวตบนพื้นฐานของ *อีเธอเรียม(ETH)* เพื่อใช้ในธุรกรรมระหว่างธนาคารในปี 2016 ก่อนที่ในปี 2020 จะขายแพลตฟอร์มนี้ให้กับบริษัทคอนเซนซิส (Consensys) ผู้พัฒนาอีเธอเรียม

ในปี 2019 เจพีมอร์แกนเปิดตัวโทเคนดิจิทัลสำหรับชำระเงินระดับองค์กร ‘JPM Coin’ และต่อมาในปี 2020 ได้ตั้งหน่วยธุรกิจด้านบล็อกเชนอย่างเป็นทางการชื่อ ‘Onyx’ เพื่อเร่งพัฒนาโซลูชันทางการเงินด้วยเทคโนโลยีนี้

ปีนี้ ธนาคารยังเดินหน้าขยายสู่ *ตลาดสเตเบิลคอยน์* อย่างจริงจัง โดยในเดือนมิถุนายน เจพีมอร์แกนได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับ *สินทรัพย์ดิจิทัลคล้ายสเตเบิลคอยน์* ในชื่อ ‘JPMD’ ซึ่งสื่อถึงการเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในระบบการชำระเงินดิจิทัล

ณ อายุ 69 ปี ดายมอนยังคงดำรงตำแหน่งผู้นำหนึ่งในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดย *สนับสนุนเทคโนโลยีบล็อกเชน* ในขณะที่ยังคงเชื่อว่า *สกุลเงินคริปโตโดยเฉพาะบิตคอยน์ ยังคงมีความเสี่ยง* ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเขาสะท้อนว่า *เขาต้องการถอยออกจากการโต้เถียงในประเด็นบิตคอยน์* หลังเผชิญแรงกดดันส่วนตัวระดับรุนแรง