ริปเปิล(XRP) เดินหมากรุกใหญ่! ผนึกกำลัง Immunefi-แอบซาแบงก์ ดันใช้ XRPL สู่การเงินกระแสหลัก

ริปเปิล(Ripple) กำลังได้รับความสนใจหลังจากประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่หลายรายการในระดับโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายตัว โดยมุ่งเสริมความปลอดภัยของเอ็กซ์อาร์พีเลเจอร์(XRPL) พร้อมเร่งการเข้าสู่การยอมรับในระบบการเงินกระแสหลัก ขณะเดียวกันยังเดินหน้าตอกย้ำบทบาทในตลาดแอฟริกา ส่งผลให้เหล่านักลงทุนจับตามองความเคลื่อนไหวของบริษัทอย่างใกล้ชิด

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ริปเปิลได้จับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับแพลตฟอร์มด้านความปลอดภัยอย่างอิมมูนิไฟ(Immunefi) เพื่อเสริมความมั่นคงของโปรโตคอลการให้ยืมภายใต้เอ็กซ์อาร์พีเลเจอร์ โดยโครงการใหม่นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับบริการบล็อกเชนสำหรับสถาบันการเงิน ด้วยระบบสินเชื่อที่ดำเนินการแบบอัตโนมัติในทุกขั้นตอนตั้งแต่การให้กู้จนถึงการชำระคืน ความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนยุทธศาสตร์ระยะยาวของริปเปิลในการใช้บล็อกเชนมาแทนที่ระบบการเงินดั้งเดิม

นอกจากนี้ ริปเปิลยังได้ร่วมมือกับแอบซาแบงก์(Absa) ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของแอฟริกาใต้ เพื่อให้บริการเทคโนโลยีดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ‘ริปเปิลคัสโตดี้(Ripple Custody)’ สู่ภูมิภาคแอฟริกา ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยให้แอบซาแบงก์สามารถจัดตั้งระบบดูแลรักษาเหรียญดิจิทัลและโทเคนที่เป็นสินทรัพย์แบบโทเคนไรซ์ได้หลากหลายรูปแบบ ขณะเดียวกัน ริปเปิลเองก็สามารถขยายอิทธิพลในทวีปแอฟริกาได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดตัวเหรียญเสถียร RLUSD ในบางประเทศในแอฟริกาไปแล้ว

กระแสความสนใจเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการอนุมัติอีทีเอฟเอ็กซ์อาร์พี(XRP ETF) ก็กลับมาอีกครั้ง โดยกลุ่มผู้สนับสนุนที่เรียกตัวเองว่า ‘XRP อาร์มี่’ เริ่มผลักดันประเด็นนี้อย่างจริงจัง ภายหลังจากที่ริปเปิลจบข้อพิพาททางกฎหมายกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ(SEC) แพลตฟอร์มคาดการณ์ราคาคริปโตอย่างโพลีมาร์เก็ต(Polymarket) ระบุว่าความเป็นไปได้ที่อีทีเอฟแบบสปอตของเอ็กซ์อาร์พีจะได้รับอนุมัติภายในสิ้นปีนี้มีโอกาสสูงเกือบ 100% อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ที่รัฐบาลกลางสหรัฐยังอยู่ในภาวะชัตดาวน์ ทำให้ SEC งดการพิจารณาอนุมัติอีทีเอฟใดๆ ส่งผลให้การอนุมัติอาจล่าช้าเกินคาด

ในช่วงเวลาเดียวกัน บริษัทจัดการกองทุนอย่างโวลาติลิตีแชร์ส(Volatility Shares) ได้ยื่นคำร้องเปิดตัวกองทุน ETF แบบเลเวอเรจ ที่มีเอ็กซ์อาร์พีเป็นสินทรัพย์หนึ่งในหลายตัวที่ติดตามราคาการเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตาม สกอตต์ เมลเกอร์(Scott Melker) เทรดเดอร์สายเทคนิคอลชื่อดัง ได้แสดง *ความคิดเห็น* วิจารณ์การเคลื่อนไหวนี้ว่า “เป็นไอเดียที่แย่ที่สุดตั้งแต่มี ETF” โดยอ้างอิงจากความเสียหายครั้งใหญ่ของตลาดที่เกิดจากการใช้เลเวอเรจเกินขนาดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ด้านราคาของเอ็กซ์อาร์พียังคงแสดงความไม่แน่นอน โดยหลังจากตลาดคริปโตโดยรวมปรับตัวลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคาของเอ็กซ์อาร์พีร่วงลงต่ำกว่าระดับ $1 เป็นครั้งแรก และยังไม่สามารถฝ่าแนวต้านสำคัญที่ $2.5 ขึ้นไปได้ นอกจากนี้ มีรายงานว่าบรรดานักลงทุนรายใหญ่ หรือ ‘วาฬ’ ได้เทขายเอ็กซ์อาร์พีกว่า 2.2 พันล้านโทเคนในช่วงเวลาสั้นๆ ยิ่งซ้ำเติมแรงขายในตลาด

ขณะเดียวกัน ความเห็นจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์คริปโต ERGAG CRYPTO ชี้ว่า เมื่อพิจารณาทางเทคนิค ราคาของเอ็กซ์อาร์พีกำลังอยู่ในแนวโน้มรูปแบบลิ่ม (wedge pattern) ซึ่งมีโอกาสทะลุขึ้นข้างบนอยู่ที่ 57% และโอกาสหลุดลงข้างล่างที่ 43%

การเคลื่อนไหวเชิงรุกของริปเปิลในครั้งนี้ ถือเป็นมากกว่าการจับมือพันธมิตรทั่วไป เพราะยังสะท้อนถึงการพยายามผลักดันให้เกิดการใช้งานเอ็กซ์อาร์พีในระดับระบบการเงินกระแสหลักอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม *ความเสี่ยงด้านนโยบาย* แบบไม่คาดฝัน โดยเฉพาะจากฝั่งสหรัฐ รวมถึงความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลก ก็ยังคงเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลต่อทิศทางราคาของเอ็กซ์อาร์พีและการขยายตัวของระบบนิเวศในระยะต่อไป