ริปเปิล(XRP) กำลังเข้าสู่ขาลงอีกครั้งหลังจากคืนกำไรส่วนใหญ่ที่ได้มาในช่วงเดือนกันยายน แม้จะมีแรงดีดกลับทางเทคนิคในระยะสั้น แต่‘ปัญหาการขาดปริมาณการซื้อขาย’และ‘ความกังวลเกี่ยวกับการพังของระดับแนวรับ’กำลังฉุดบรรยากาศของตลาดให้กลับสู่ความซบเซา การที่ XRP ไม่สามารถทะลุแนวต้านได้อย่างมั่นคงหลายครั้ง ทำให้หลายฝ่ายมองว่ากำลังก่อตัวเป็นรูปแบบ ‘สามเหลี่ยมขาลง’ ซึ่งอาจส่งสัญญาณถึง‘แนวโน้มการอ่อนตัวลงต่อเนื่อง’
เมื่อวันที่ 7 XRP เคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 2.85 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,962 บาท) โดยยังสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (EMA) ได้อย่างเฉียดฉิว หากแนวรับที่ระดับนี้หลุดลงไป จุดต่อไปที่ตลาดจับตาคือเส้น EMA 200 วันที่ระดับ 2.63 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,655 บาท) ซึ่งถือเป็นแนวรับสำคัญ ขณะที่แผนภูมิด้านเทคนิคเริ่มแสดงรูปแบบที่อ่อนตัวชัดเจนมากขึ้น และอาจสะท้อนถึงภาวะ ‘การปรับฐานในระยะยาว’
จากข้อมูลในตลาด พบว่าปฏิกิริยาจากนักลงทุนยังคงเป็นลบ ปริมาณซื้อขายภายใน 24 ชั่วโมงล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 6.04 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 8.39 ล้านล้านบาท) ซึ่งถือว่าเบาบางและไม่มีสัญญาณของแรงซื้ออย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกัน มูลค่าตลาดของ XRP ลดลงจาก 177.8 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 247.74 ล้านล้านบาท) เหลือ 170.9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 238.5 ล้านล้านบาท) ภายในวันเดียวเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวในช่วงปลายเดือนกันยายนไม่ได้มีโครงสร้างรองรับที่แข็งแรงพอ
ขณะที่ตลาดคริปโตโดยรวมกำลังอยู่ในช่วงพักฐาน ‘ราคาของบิตคอยน์(BTC)ที่เคลื่อนไหวในกรอบแคบ’ก็กำลังลดแรงจูงใจของนักลงทุนที่ชื่นชอบความเสี่ยง เมื่อบิตคอยน์ไม่สามารถส่งสัญญาณขาขึ้นที่ชัดเจน XRP ก็อาจต้องเผชิญกับความผันผวนที่มากกว่า โดย‘ดัชนี RSI’ของ XRP ยังคงอยู่ในโซนกลาง แปลว่าขาดแรงผลักดันในการทำราคาขึ้นเพิ่มเติม
หาก XRP ต้องการกลับขึ้นไปทดสอบระดับ 3.00 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,170 บาท) การปรับขึ้นจะต้องมาพร้อม‘ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น’อย่างแข็งแกร่ง เพราะนั่นจะเป็นสัญญาณที่นักวิเคราะห์มองว่าเพียงพอจะ ‘ทำลายแนวโน้มขาลง’ในปัจจุบันได้ แต่ในทางกลับกัน ‘ภาพรวมทางเทคนิคที่ยังเป็นลบ’และ‘การขาดอุปสงค์ที่แท้จริง’กลับสร้างความกังวลมากกว่าโอกาสในการดีดตัว
โดยรวม หลายฝ่ายเชื่อว่าการฟื้นตัวหลังเดือนกันยายนเป็นเพียง‘ช่วงพักหายใจ’ของขาลงเท่านั้น ไม่ใช่การเริ่มต้นของเทรนด์ขาขึ้นใหม่ ซึ่งหากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน‘XRP จะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบกลางถึงขาลง’และมีโอกาสเจอแรงขายเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0