เดือด! ยื่นขอ ETF คริปโตฯ ทะลุ 155 ฉบับ – บิตคอยน์(BTC), โซลานา(SOL) นำขบวนชิงพื้นที่ตลาดสหรัฐฯ

ตลาดกองทุนรวมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์(ETF) ของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับ *คริปโตเคอร์เรนซี* กำลังดุเดือดขึ้นทุกขณะด้วยการแข่งขันที่เปรียบเสมือน "สงครามยึดครองพื้นที่" โดยล่าสุดมีการยื่นขอก่อตั้ง *กองทุน ETF คริปโตฯ* รวมแล้วมากถึง 155 ฉบับต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) จากรายงานของ Bloomberg เมื่อเร็ว ๆ นี้

เอริก บัลชูนาส(Eric Balchunas) นักวิเคราะห์อาวุโสด้าน ETF ของ Bloomberg ระบุผ่านโซเชียลมีเดียว่า หากอัตราการยื่นคำขอดังกล่าวยังคงเดินหน้าต่อไป ตัวเลขอาจทะลุ 200 ฉบับในเวลาไม่นาน เขาเน้นว่า “นี่ไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่เป็น *สงครามเต็มรูปแบบ* เพื่อแย่งชิงโครงสร้างพื้นฐานของ ETF คริปโตฯ ก่อนใคร”

ในบรรดา cryptocurrencies ที่ถูกเสนอขอจัดตั้ง ETF มากที่สุดคือ *บิตคอยน์(BTC)* และ *โซลานา(SOL)* ซึ่งเป็นสองเหรียญที่โดดเด่นทั้งในด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์การลงทุนและปริมาณการซื้อขาย โดยเฉพาะโซลานา ซึ่งได้รับความสนใจจากสถาบันขนาดใหญ่ เนื่องจากความเร็วในการประมวลผลสูงและค่าธรรมเนียมต่ำ

*ริปเปิล(XRP)* ตามมาติด ๆ ในอันดับสอง โดยมีการยื่นขอ ETF รวม 20 ฉบับ ส่วน *อีเธอเรียม(ETH)* และกลุ่ม ETF ที่รวมหลายสินทรัพย์คริปโตฯ อยู่ในอันดับถัดมา ด้วยจำนวนอย่างละ 10 ฉบับ ขณะที่ *ไลต์คอยน์(LTC)* แม้จะมีมูลค่าตลาดอยู่อันดับที่ 31 ก็ยังมีผู้ยื่นขอ ETF ถึง 5 ฉบับ ถือเป็นสถิติที่น่าสนใจอีกอย่างในครั้งนี้

ที่น่าจับตาคือ *เหรียญมีม* อย่าง *โดจคอยน์(DOGE)* และ *บองค์(BONK)* ก็ยังถูกผลักดันเข้า ETF เช่นกัน โดย DOGE มี 4 ฉบับ และ BONK อีก 2 ฉบับ สะท้อนว่าแนวโน้มการลงทุนขยายออกไปไกลเกินแค่ด้านเทคโนโลยีหรือมูลค่าตลาด สู่ *พฤติกรรมความนิยมและเทรนด์การลงทุน* ของนักลงทุนอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กระบวนการอนุมัติ ETF ในขณะนี้ได้ *หยุดชะงักอย่างสมบูรณ์* เนื่องจากผลกระทบจากการปิดทำการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ SEC ระงับการพิจารณาทุกกรณีที่เกี่ยวกับ ETF คริปโตฯ ทำให้คำขอที่ยื่นมากกว่า 150 ฉบับในขณะนี้ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด

ตามข้อมูลวงในของ SEC หากรัฐบาลกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติ การพิจารณาคำขอเหล่านี้จะถูกเร่งดำเนินการ แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครสามารถระบุช่วงเวลานั้นได้อย่างชัดเจน

แนวโน้มการแข่งขันในตลาด *ETF คริปโตฯ* นี้มีโอกาสกลายเป็น *เกมยาว* ที่กินเวลาไปอีกหลายเดือนหรือหลายปี โดยในมุมมองของนักลงทุนบางกลุ่ม เชื่อว่าหาก *ทรัมป์* สามารถกลับขึ้นสู่ตำแหน่งอีกครั้ง นโยบายผ่อนคลายกฎระเบียบแบบพรรครีพับลิกันอาจเปิดทางให้กับการอนุมัติ ETF ง่ายยิ่งขึ้น แม้ว่าเจ้าตัวจะมีท่าทีไม่เป็นมิตรกับสินทรัพย์ดิจิทัลในสมัยที่ดำรงตำแหน่ง

“ความคิดเห็น” ผู้เชี่ยวชาญในตลาดมองว่า แม้การแข่งขันกันยื่นขอ ETF จะดูเหมือนแข่งกันที่ตัวเลข แต่จริง ๆ แล้วนี่อาจเป็นช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตายของการทำให้ *คริปโตฯ เข้าสู่ระบบการเงินแบบดั้งเดิม* ได้จริง เพราะ ETF ถือเป็นประตูสำคัญที่ช่วยให้ *นักลงทุนรายย่อย* เข้าถึงคริปโตฯ ได้อย่างง่ายดาย

สุดท้าย หนทางสู่ชัยชนะในศึกนี้อาจไม่ใช่แค่กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ผู้ที่สามารถยืนหยัดผ่านทั้งเรื่องการเมือง กฎระเบียบ และกระแสนิยมได้ คือผู้ที่จะสามารถยืนหนึ่งในสนาม ‘แย่งชิงพื้นที่’ ของ ETF คริปโตฯ ได้อย่างแท้จริง