ราคาทองร่วง 5% ขณะบิตคอยน์(BTC) พุ่งแตะ 114,000 ดอลลาร์ สะท้อนบทบาทใหม่ 'ทองคำดิจิทัล'

เมื่อปลายปี 2025 ตลาดสินทรัพย์แบบดั้งเดิมและสินทรัพย์ดิจิทัลต่างเคลื่อนไหวในทิศทางที่ตรงกันข้าม จนกลายเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลก ขณะที่ ‘ราคาทองคำ’ ร่วงลงกว่า 5% ภายในวันเดียว แตะระดับการปรับตัวลดลงรายวันที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ‘บิตคอยน์(BTC)’ กลับพุ่งทำสถิติสูงสุดของปีที่ประมาณ 114,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิมและบทบาทที่กำลังเติบโตของคริปโตเคอร์เรนซีในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจปัจจุบัน

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม บิตคอยน์แตะระดับสูงสุดรายวันที่ 113,996.35 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำร่วงจาก 4,381 ดอลลาร์ เหลือเพียง 4,115.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การร่วงลงดังกล่าวมีสาเหตุจากการปรับฐานหลังราคาทองพุ่งขึ้นกว่า 25% ในระยะเวลาอันสั้น ผสมกับปัจจัยเสี่ยงทางมหภาคอย่างความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รายงานจากเม็กซี่เวนเจอร์ส(MEXC Ventures) วิเคราะห์ว่าการลดลงของราคาทอง กลับกลายเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้บิตคอยน์ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ทางเลือกใหม่ที่น่าเชื่อถือ

กรณีราคาทองคำร่วงในครั้งนี้ ยังเปิดเผยถึงความเปราะบางของความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อสินทรัพย์แบบดั้งเดิม นักวิเคราะห์ นิกกี้ ชิลส์ กล่าวว่าการเพิ่มขึ้น 1,000 ดอลลาร์ในช่วงสองเดือนของราคาทอง เป็น “ภาวะฟองสบู่ที่ไม่อาจคงอยู่ได้” ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสโยกย้ายเงินทุนบางส่วนเข้าสู่ตลาดคริปโตและช่วยยกระดับสถานะของบิตคอยน์ในตลาดโลก

การพุ่งขึ้นของบิตคอยน์ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของราคา แต่เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้างของตลาดดิจิทัล ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงอย่างเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั่วโลก ‘โครงสร้างที่ไม่มีศูนย์กลาง’ และ ‘จำนวนจำกัดของการผลิต’ กลายเป็นจุดแข็งที่ทำให้บิตคอยน์เสริมภาพลักษณ์ในฐานะ ‘ทองคำดิจิทัล’ มากยิ่งขึ้น ตามรายงานของเม็กซี่เวนเจอร์ส ขณะนี้นิยามของ ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ กำลังเปลี่ยนไป และบิตคอยน์อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในไม่ช้า

เมื่อมองไปยังปี 2026 แนวโน้มความชัดเจนด้านกฎเกณฑ์และการพัฒนาทางเทคโนโลยีจะยิ่งช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือของตลาดคริปโต โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ และการวางกรอบกำกับดูแลที่ชัดเจน มีแนวโน้มช่วยผลักดันให้คริปโตเข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลัก เม็กซี่เวนเจอร์สมองว่า นักลงทุนจะเริ่มมองสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ใช่แค่เป็นทางเลือก แต่เป็น ‘ส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน’

ในช่วงที่เส้นแบ่งระหว่างสินทรัพย์ดั้งเดิมกับสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มเบลอ นักลงทุนควรมีกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นและสมดุลยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับโอกาสและความเสี่ยงที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจระดับโลก ความสามารถในการปรับพอร์ตและเข้าถึงข้อมูลที่แม่นยำและตรงเวลา จึงเป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อสถานะของบิตคอยน์และคริปโตเริ่มเปลี่ยนจาก ‘การทดลอง’ ไปสู่บทบาทถาวรในตลาดการเงินระดับโลก ‘ความคิดเห็น’ ปัจจัยเหล่านี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่กำหนดทิศทางใหม่ของตลาดในช่วงหลังจากนี้