Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) ร่วง 6.41% หลังความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกยังสูง แม้ทรัมป์ส่งสัญญาณบวกต่อจีน

บิตคอยน์(BTC) ร่วง 6.41% หลังความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกยังสูง แม้ทรัมป์ส่งสัญญาณบวกต่อจีน / Tokenpost

ตลาดการเงินทั่วโลกเริ่มเข้าสู่ภาวะเสถียรภาพชั่วคราว หลังความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มคลี่คลายลง โดย *เอเอ็มแมเนจเมนต์* บริษัทวิจัยด้านคริปโต รายงานว่า คำกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการผ่อนคลายมาตรการภาษีต่อจีนได้ส่งสัญญาณเชิงบวกระยะสั้นต่อเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากความผันผวนที่ยังคงอยู่ การเจรจาที่ยังไม่ชัดเจน และปัญหาการปิดหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดโดยรวม

ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงท่าทีผ่อนปรนโดยกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับจีน” พร้อมส่งสาส์นเชิงบวกถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และถอยห่างจากท่าทีจะจัดเก็บภาษี 100% ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ก็กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการกลับมาเจรจาระดับเจ้าหน้าที่กับจีน ซึ่งช่วยลดความตึงเครียดได้บางส่วน อย่างไรก็ตาม ตลาดยังมองว่านี่เป็นเพียง ‘ปัจจัยกระตุ้นชั่วคราว’ เท่านั้น เนื่องจากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายใดๆ ที่เป็นทางการ *เอเอ็มแมเนจเมนต์* เตือนว่านี่คือช่วงที่ความผันผวนอาจขยายตัว และแนะนำให้ลงทุนด้วยกลยุทธ์ที่ระมัดระวัง

กรณีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดหุ้น โดยการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ เช่น CPI, PPI และยอดค้าปลีก ถูกเลื่อนออกไป ส่งผลให้ตลาดเข้าสู่ภาวะ *Data Void* หรือช่องว่างข้อมูล ซึ่งจำกัดความสามารถในการประเมินสถานการณ์อย่างแม่นยำ ด้าน *คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC)* มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 375–400 จุดเบส ในการประชุมเดือนตุลาคม โดยข้อมูลในรายงานระบุว่า ความเป็นไปได้อยู่ที่ 99% และยังมีแนวโน้มอีก 93.9% ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนธันวาคม จึงสามารถมองว่า การลดดอกเบี้ยครั้งต่อไปเป็นเรื่องที่เกือบจะแน่นอนแล้ว

ในส่วนของตลาดคริปโต ก็ได้รับผลกระทบเชิงลบจากความไม่แน่นอนนี้เช่นกัน บิตคอยน์(BTC) ปรับตัวลดลง 6.41% ต่อสัปดาห์ ปิดตลาดที่ 107,759 ดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าตลาดรวมของคริปโตทั่วโลกลดลง 6.71% เหลือ 3.61 ล้านล้านดอลลาร์ *เอเอ็มแมเนจเมนต์* ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพคล่องระหว่างสินทรัพย์ โดยกองทุน ETF ของบิตคอยน์ ยังคงได้รับเงินทุนอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กองทุน ETF ของอีเธอเรียม(ETH) มีเงินทุนไหลออกมากถึง 420 ล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนสถาบันกำลังโยกย้ายพอร์ตมาสู่บิตคอยน์มากขึ้น

ในแง่ของเทคนิคัล บิตคอยน์หลุดจากเส้นแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลาง-ยาว และกำลังทดสอบแนวรับบริเวณเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว โดยมองว่าแนวรับที่บริเวณ 102,000 ดอลลาร์คือ *แนวรับสุดท้าย* หากยังรักษาระดับนี้ไว้ได้ ก็อาจฟื้นตัวได้อีกครั้ง แต่หากหลุดต่ำกว่านี้ ตลาดอาจเข้าสู่แนวโน้มขาลงใหม่ ขณะที่อัลท์คอยน์ยังคงอยู่ในทิศทางขาลงชัดเจน *ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์กล่าวว่า ต้องรอสัญญาณการเปลี่ยนเทรนด์ของ ‘โดมินานซ์’ ก่อนถึงจะเริ่มวางกลยุทธ์เชิงรุกได้

สรุปแล้ว การเคลื่อนไหวในตลาดครั้งนี้ยังเป็นเพียงการตอบสนองต่อคำแถลงของทรัมป์ในระยะสั้นเท่านั้น หากไม่มีพัฒนาการที่เป็นรูปธรรม เช่น การกลับมาเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หรือการยุติการปิดภาครัฐ จึงยากที่จะเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างชัดเจน *เอเอ็มแมเนจเมนต์* ยังระบุว่า นักลงทุนควรจับตาการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายและทิศทางของตัวเลขเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง และการใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสภาพตลาด โดยเฉพาะการติดตามกระแสเงินทุนและผลประกอบการของ ‘เหรียญขนาดใหญ่’ อย่างต่อเนื่อง

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1