ข้อเสนอ Soft Fork บิตคอยน์(BTC) จุดชนวนดราม่าชุมชน หลังพูดถึงความรับผิดชอบทางกฎหมาย

นักพัฒนาแกนหลักของบิตคอยน์(BTC) อย่าง ลุค แดชจูร์(Luke Dashjr) ได้เสนอแนวคิด *soft fork* เพื่อควบคุมข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเงินบนบล็อกเชน แต่กลับสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในชุมชน โดยเฉพาะประโยคที่เกี่ยวข้องกับ *ความรับผิดชอบทางกฎหมายและจริยธรรม* ซึ่งกลายเป็นจุดศูนย์กลางของความขัดแย้งประเด็นนี้ ทำให้ความตึงเครียดระหว่างกลุ่ม Bitcoin Core และกลุ่ม Knots ที่แยกสายออกมายิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอีกขั้น

ข้อเสนอการปรับปรุงบิตคอยน์(BIP) ฉบับนี้ถูกเผยแพร่ผ่าน GitHub เมื่อวันที่ 21 โดยมีเนื้อหาเสนอให้จำกัด ‘ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวกับการเงิน’ บนบล็อกเชนเป็นระยะเวลา 1 ปี ผ่านการทำ soft fork เป็นการชั่วคราว สาเหตุของข้อเสนอนี้มีจุดเริ่มต้นจากการอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดของ Bitcoin Core v30 ที่เปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีสามารถแทรกรูปภาพหรือเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย เช่น ภาพอนาจารหรือภาพความรุนแรง ลงบนบิตคอยน์บล็อกเชนได้ ลุค แดชจูร์จึงเสนอให้มีมาตรการเบื้องต้นเพื่อจัดการกับปัญหานี้ ขณะที่การค้นหาแนวทางถาวรกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม จุดที่กลายเป็นประเด็นร้อนกลับไม่ใช่ตัว soft fork เอง หากแต่เป็นถ้อยคำในข้อเสนอที่กล่าวโทษผู้ที่คัดค้าน โดยในบรรทัดที่ 261 ของข้อเสนอระบุว่า “การปฏิเสธ soft fork นี้อาจถือเป็นปัญหาทางจริยธรรมและกฎหมาย” และในบรรทัดที่ 270–272 ยังมีข้อความว่า “การไม่ยอมรับ soft fork อาจทำให้ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายหรือทางศีลธรรม และอาจนำไปสู่การแยกตัวเป็นเหรียญใหม่ เช่น บิตคอยน์แคช(BCH)” แม้ต่อมาผู้เขียนจะระบุว่า *การเลือกนั้นเป็นอิสระ* แต่หลายฝ่ายมองว่าถ้อยคำดังกล่าวมีลักษณะข่มขู่และไม่เหมาะสม

เสียงวิพากษ์ในชุมชนบิตคอยน์สะท้อนว่า ถ้อยคำเหล่านี้ขัดกับ *หลักการกระจายอำนาจ* ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของบิตคอยน์ อีกทั้ง การกล่าวถึง ‘ความรับผิดชอบทางกฎหมาย’ อาจถูกตีความว่าเป็นการ *พยายามควบคุมความคิดและพฤติกรรมของผู้มีส่วนร่วมในเครือข่าย* อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้บางส่วนที่ให้การสนับสนุนข้อเสนอนี้ โดยชี้ว่า การปล่อยให้มีข้อมูลผิดกฎหมายในระบบอาจทำให้โครงข่ายทั้งหมดตกอยู่ในความเสี่ยงด้านกฎหมาย

เหตุการณ์นี้ตอกย้ำความเปราะบางระหว่างการพัฒนาทางเทคนิคของบิตคอยน์กับระบบการตัดสินใจของชุมชน ซึ่งดุลยภาพของทั้งสองฝั่งคือกุญแจสำคัญของอนาคตบิตคอยน์ *คำถามว่า “อะไรคือแก่นแท้ของบิตคอยน์?”* กำลังถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหัวข้อถกเถียงอีกครั้ง เหลือเพียงต้องจับตาว่า ข้อเสนอนี้จะสามารถผ่านความเห็นชอบจากชุมชนและถูกนำไปประยุกต์ใช้จริงได้หรือไม่ในช่วงเวลาข้างหน้า