เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ดันตลาดคริปโตล้างพอร์ต 700 ล้านดอลลาร์ บิตคอยน์(BTC) ร่วงแรง

ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ส่งผลกระทบทันทีต่อ *ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี* โดยเกิดการ ‘ล้างพอร์ต’ มูลค่ากว่า *700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9,538 ล้านบาท)* ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทั้งที่โดยทั่วไปแล้ว การลดดอกเบี้ยมักเป็นสัญญาณบวกสำหรับสินทรัพย์เสี่ยง แต่ครั้งนี้กลับสร้างแรงกดดันต่อราคาของ *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* อย่างชัดเจน

รายงานระบุว่า ก่อนหน้าที่ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะประกาศออกมา ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 112,000-113,000 ดอลลาร์ แต่หลังจากที่ประธานเฟด *เจอโรม พาวเวลล์* ประกาศลดดอกเบี้ยอย่างเป็นทางการ ราคากลับดิ่งลงสู่ระดับ 109,000 ดอลลาร์ ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นมาแตะ 110,500 ดอลลาร์ภายหลัง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในตลาดยังสะท้อนความผันผวนสูง ขณะที่อีเธอเรียมก็ร่วงหลุดระดับ 3,850 ดอลลาร์จากแรงขายในวงกว้าง

เทรดเดอร์รายหนึ่งในชื่อ *Merlijn The Trader* แสดงความคิดเห็นว่า “ทุกครั้งที่มี FOMC ในปีนี้ ราคาบิตคอยน์มักร่วง และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น” โดยอธิบายว่า ถือเป็นการย้ำภาพ ‘แพตเทิร์น’ เดิมที่ราคาปรับลงมาในอัตรา 10%, 6% และ 8% ตามลำดับในแต่ละครั้ง และเชื่อว่า ‘ช่องว่างราคา’ (gap) ที่เกิดขึ้นบนตลาดฟิวเจอร์ส CME อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ดึงราคาลงมา นอกจากนี้ เหรียญ *อัลท์คอยน์ขนาดเล็ก* หลายตัวก็ร่วงตามทิศทางตลาดหลักเช่นกัน

ข้อมูลจาก *CoinGlass* เผยว่ามีการล้างพอร์ตเกิดขึ้นทั่วตลาดมูลค่ารวมสูงกว่า 700 ล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว โดยมากกว่าครึ่งของจำนวนนี้เกิดขึ้นภายใน 4 ชั่วโมงหลังจากประกาศผลประชุม จำนวนเทรดเดอร์ที่ถูกบังคับขายมีมากกว่า 150,000 ราย โดยรายการใหญ่สุดมาจากแพลตฟอร์ม *Bybit* คิดเป็นมูลค่าเกือบ 11 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 149 ล้านบาท)

*ความคิดเห็น*: การลดดอกเบี้ยไม่ได้หมายความว่า *ตลาดคริปโต* จะพุ่งขึ้นเสมอไป โดยเฉพาะในช่วงหลังจากที่ตลาดปรับตัวขึ้นมาแรง การเปลี่ยนแปลงนโยบายจึงอาจกลายเป็นโอกาสในการฟื้นกำไรระยะสั้นของนักลงทุน การจับตาความเคลื่อนไหวของราคาหลังนโยบายประกาศจึงยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นในช่วงนี้