มูลนิธิอีเธอเรียมปรับระบบทุนใหม่ผ่านโครงการ ESP ชูเป้าหมายพัฒนาโปรโตคอล-ขยายชุมชน

มูลนิธิอีเธอเรียมประกาศปรับระบบการให้ทุนใหม่ทั้งหมด โดยยกเลิกรูปแบบแบบเปิด และปรับเปลี่ยนมาใช้โครงการ ‘สนับสนุนระบบนิเวศน์ (Ecosystem Support Program หรือ ESP)’ ซึ่งเน้นจัดสรรงบประมาณตามภารกิจภายในที่มีความสำคัญสูง เป็นการปรับแผนเพื่อเสริมกลยุทธ์การเติบโตของระบบนิเวศอีเธอเรียมอย่างตรงจุด

เมื่อวันที่ 3 มูลนิธิอีเธอเรียมเปิดเผยผ่านบล็อกอย่างเป็นทางการว่า ระบบใหม่จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ‘รายการความต้องการ (Wishlist)’ และ ‘คำร้องขอข้อเสนอ (Request for Proposal หรือ RFP)’ โดยจะรับพิจารณาเฉพาะโครงการที่มีเป้าหมายตรงกับกลยุทธ์สำคัญ เช่น การพัฒนาโปรโตคอล การวิจัย โครงสร้างพื้นฐาน และการขยายฐานชุมชน

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นจากข้อจำกัดของระบบการให้ทุนแบบเปิดในอดีต ซึ่งแม้จะสามารถสนับสนุนโครงการได้หลายร้อยรายการ แต่กลับสร้างภาระด้านทรัพยากรทั้งบุคคลและงบประมาณ จนยากต่อการใช้ประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ มูลนิธิระบุว่า ความต้องการที่สูงขึ้นทำให้ไม่สามารถติดตามโอกาสที่สำคัญได้ จนต้องระงับระบบเก่าไปชั่วคราวในช่วงครึ่งปีแรก

โครงการ ESP ใหม่นี้จึงไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง แต่ยังเป็นการมุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาเทคนิคสำคัญใน ‘แผนที่ทางเทคโนโลยีของอีเธอเรียม’ โดย RFP และ Wishlist ล่าสุดได้ระบุไว้ชัดถึงความต้องการด้าน ‘วิทยาการเข้ารหัส’, ‘ความเป็นส่วนตัว’, ‘ความปลอดภัย’ และ ‘การเติบโตของชุมชน’ อีกด้วย มูลนิธิกล่าวว่า ความร่วมมือกับทีมงานภายในจำนวนมาก ทำให้สามารถจัดสรรเงินทุนได้แม่นยำยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ มูลนิธิอีเธอเรียมริเริ่มโครงการให้ทุนตั้งแต่ปี 2018 โดยในปีที่ผ่านมาเพียงปีเดียว ได้ให้การสนับสนุนแก่โครงการรวม 105 รายการ คิดเป็นวงเงินกว่า 3 ล้านดอลลาร์ หรือราว 40 ล้านบาท

การประกาศเปลี่ยนแปลงระบบทุนในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่เครือข่ายทดสอบ ‘Hoodi’ นำฟอร์ก ‘ฟูซากะ (Fusaka)’ ซึ่งรวมถึงข้อเสนอ EIP-7594 (PeerDAS) ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงเฉพาะส่วนข้อมูลบางส่วนแทนการโหลดทั้งชุด เพิ่มประสิทธิภาพของโหนด พร้อมข้อเสนอ EIPs 7825 และ 7935 เพื่อยกระดับความสามารถในการขยายระบบ ถือเป็นก้าวสำคัญสู่เป้าหมาย ‘การประมวลผลแบบขนาน’

แนวทางสร้างความเชื่อมโยงระหว่างการอัปเกรดเทคโนโลยีกับการบริหารเงินทุนอย่างเป็นระบบ ตอกย้ำว่าอีเธอเรียมกำลังเดินหน้าไม่ใช่แค่การรักษาเครือข่ายให้คงอยู่ แต่กำลังพัฒนาให้เป็น *โครงสร้างพื้นฐานระดับโลกแห่งอนาคต* อย่างแท้จริง *ความคิดเห็น:* หากการกระจายทรัพยากรเป็นไปตามเป้าหมาย เทคโนโลยีและชุมชนของอีเธอเรียมก็จะมีความชัดเจนและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม