Chainalysis เตือน คอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจล้มระบบความปลอดภัยของบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ภายใน 15 ปี

การพัฒนาอย่างรวดเร็วของคอมพิวเตอร์ควอนตัมกำลังกลายเป็นภัยคุกคามต่อเทคโนโลยีความปลอดภัยของ *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* ซึ่งอาศัยระบบเข้ารหัสในการปกป้องข้อมูล Chainalysis บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน ได้เตือนว่า ถึงแม้คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่สามารถถอดรหัสข้อมูลของสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ แต่ก็อาจเกิดขึ้นภายในอีก 5 ถึง 15 ปีข้างหน้า และหน่วยงานต่างๆ ควรเริ่มดำเนินการตรวจสอบด้านความปลอดภัยและเตรียมแผนรับมือไว้ตั้งแต่ตอนนี้

Chainalysis เผยในรายงานล่าสุดว่า การพัฒนาของ Google ในด้านคอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความปลอดภัยของคริปโต โดยเฉพาะระบบการเข้ารหัสของ *บิตคอยน์* และ *อีเธอเรียม* ที่ใช้ระบบ ‘คีย์สาธารณะ (Public Key)’ ซึ่งรวมถึง ECDSA, SHA-256 และ Keccak-256 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถเจาะเข้าถึงข้อมูลได้หากใช้อัลกอริธึม Shor ที่สามารถคำนวณ ‘คีย์ส่วนตัว’ จาก ‘คีย์สาธารณะ’ ได้โดยตรง ซึ่งทำให้แฮกเกอร์สามารถยึดกระเป๋าสตางค์ของผู้ใช้ได้ทันที ส่วนบทบาทของอัลกอริธึม Grover นั้นแม้จะลดความแข็งของค่าแฮชได้ แต่ผลกระทบยังถือว่าจำกัด

ระบบที่เปราะบางที่สุดคือที่อยู่ของ *บิตคอยน์* รุ่นเก่าที่ถูกสร้างในช่วงเริ่มต้นบางส่วน และที่มีการ reused address ซ้ำหลายครั้ง ซึ่งเปิดเผยคีย์สาธารณะไว้บนบล็อกเชนแล้ว Chainalysis เตือนว่า แฮกเกอร์อาจกำลังรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า เพื่อเตรียมตัวโจมตีทันทีเมื่อเทคโนโลยีควอนตัมพร้อมใช้งานในระดับอุตสาหกรรม

เพื่อลดความเสี่ยง Chainalysis แนะนำให้ทำ ‘การตรวจสอบด้านความปลอดภัย’ กับกระเป๋าเงิน, แพลตฟอร์มซื้อขาย และโครงสร้างพื้นฐานของบล็อกเชนโดยรวม พร้อมติดตามความคืบหน้าของการพัฒนา ‘ระบบรหัสต้านควอนตัม (PQC)’ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการยกระดับเป็นมาตรฐานระดับโลก และเสนอให้ผู้พัฒนาเตรียมกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่อยู่และระบบการเซ็นชื่อไปสู่ ‘ที่อยู่ที่ต้านทานต่อควอนตัม’ ตั้งแต่เนิ่นๆ

Chainalysis เน้นว่า แม้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัมจะยังไม่ใช่ภัยคุกคามในวันนี้ แต่เวลาก็ไม่ได้เหลือมากนัก ความพร้อมล่วงหน้าเป็นแนวทางที่ฉลาดกว่าการแก้ปัญหาทีหลัง โดยเฉพาะผู้ที่เข้าร่วมในระบบบล็อกเชนในช่วงแรก จะตกอยู่ในความเสี่ยงมากที่สุด นี่จึงเป็นเรื่องความมั่นคงทางข้อมูล ไม่ใช่เพียงประเด็นด้านเทคโนโลยีเท่านั้น *ความคิดเห็น*: ความเปลี่ยนแปลงที่กำลังใกล้เข้ามานี้อาจกลายเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของอุตสาหกรรมคริปโตในอนาคตอันใกล้