อามุนดีเปิดตัวกองทุนโทเคนบนบล็อกเชนอีเธอเรียม(ETH) ปฏิวัติวงการลงทุนยุโรป

อามุนดี(Amundi) บริษัทจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในยุโรป ได้ก้าวเข้าสู่ยุคการเงินดิจิทัลอย่างแข็งแกร่ง ด้วยการเปิดตัว ‘คลาสแบบโทเคน’ บนกองทุนรวมตลาดเงิน(MMF) ที่ใช้สกุลเงินยูโร โดยพัฒนาอยู่บนระบบบล็อกเชน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แบบไฮบริดที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนเลือกลงทุนผ่านรูปแบบดั้งเดิมหรือบล็อกเชนได้ตามต้องการ

ตามข้อมูลของอามุนดี การทำธุรกรรมแบบโทเคนครั้งแรกได้ถูกบันทึกบนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) อย่างสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ถือเป็นการนำเอาเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์มาเชื่อมโยงกับรูปแบบการจัดการสินทรัพย์ดั้งเดิมได้อย่างแยบยล

โครงการนี้พัฒนาโดยความร่วมมือกับบริษัทโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงินของยุโรปอย่างคาเซส(CACEIS) ซึ่งได้จัดหาเทคโนโลยีสนับสนุนทั้งหมด ตั้งแต่ระบบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับโทเคน, กระเป๋าเงินดิจิทัลสำหรับนักลงทุน ไปจนถึงระบบคำสั่งซื้อและไถ่ถอนทางดิจิทัลแบบครบวงจร

ทั้งสองบริษัทเน้นจุดเด่นของโครงการนี้ว่า การใช้โทเคนช่วยลดขั้นตอนการจัดการคำสั่งซื้ออย่างมาก เพิ่มช่องทางเข้าถึงจากนักลงทุนรายใหม่ และยังสามารถดำเนินการซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกองทุนตลาดเงินที่มีลักษณะความเสี่ยงและผลตอบแทนต่ำ ‘ประสิทธิภาพ’ และ ‘สภาพคล่อง’ คือปัจจัยสำคัญ ซึ่งบล็อกเชนสามารถช่วยให้เกิดการชำระบัญชีแบบเรียลไทม์และเพิ่มระดับความอัตโนมัติให้กับการทำธุรกรรมได้

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของอามุนดีถูกมองว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งของการผนวกรวมเทคโนโลยีสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ระบบการเงินแบบดั้งเดิม โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าโมเดลนี้จะเป็นรากฐานสำคัญในการขยายผลิตภัณฑ์ลงทุนแบบโทเคนไปสู่บริษัทจัดการสินทรัพย์ทั่วทั้งยุโรปในอนาคต

‘ความคิดเห็น’: กรณีของอามุนดีสะท้อนให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวจริงจังของสถาบันการเงินในยุโรปที่เริ่มเข้าสู่ตลาดการโทเคนสินทรัพย์ในโลกจริง (Real-World Asset หรือ RWA) การรวมเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับระบบการเงินอาจช่วยลดต้นทุนในการจัดการสินทรัพย์ ขยับขยายฐานนักลงทุน และสร้างความยืดหยุ่นสูงให้กับตลาดการลงทุน

‘ความคิดเห็น’: หากแนวโน้มการโทเคนกองทุนและสินทรัพย์สำหรับนักลงทุนสถาบันในยุโรปเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย โครงการที่เชื่อมต่อระบบกับเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) โดยตรง รวมถึงโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง อาจได้รับ ‘มูลค่า’ ที่สูงขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ โมเดลที่ให้ทางเลือกการลงทุนบนบล็อกเชนสำหรับนักลงทุน MMF ยังสามารถนำไปประยุกต์กับผลิตภัณฑ์ด้านการเงินอื่นๆ ได้อีกมาก