อังกฤษเสนอกรอบภาษีใหม่ ยกเว้นภาษีคริปโตในธุรกรรมดีไฟ(DeFi)

รัฐบาลอังกฤษเสนอกรอบภาษีใหม่เพื่อลดภาระให้ผู้ใช้งานดีไฟ(DeFi) โดยระบุว่าการกู้ยืมโดยใช้คริปโตเคอร์เรนซีเป็นหลักประกัน หรือการฝากสินทรัพย์ไว้ในพูลสภาพคล่อง จะไม่ถือว่าเป็นการขายทรัพย์สิน จึงไม่ต้องเสียภาษีกำไรจากการขายจนกว่าจะมีการขายจริง

เมื่อวันที่ 22 (เวลาท้องถิ่น) กรมสรรพากรแห่งสหราชอาณาจักร (HMRC) ประกาศข้อเสนอใหม่ภายใต้หลักการ ‘ไม่มีการทำกำไร ไม่มีการขาดทุน’ (no gain, no loss) ซึ่งจะยกเว้นภาษีทุนจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับดีไฟ เช่น การให้ยืมโทเคนและรับคืนเป็นโทเคนชนิดเดียวกัน, การกู้ผ่านสัญญาเงินกู้ หรือนำโทเคนไปฝากในพูลสภาพคล่อง ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะไม่ถือว่าเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ในเชิงภาษีอีกต่อไป

ก่อนหน้านี้ การนำคริปโตฝากในแพลตฟอร์มดีไฟแม้จะไม่มีเจตนาขาย ก็ยังถือว่าเป็นกิจกรรมที่ต้องเสียภาษี โดยอัตราภาษีที่ต้องชำระอาจสูงถึง 32% ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและมูลค่าในการโอนทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม ภายใต้กรอบภาษีใหม่นี้ การชำระภาษีจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเกิดการขายหรือถอนทรัพย์สินจริงเท่านั้น

HMRC เสริมว่า จะใช้จำนวนโทเคนที่ได้รับคืนเทียบกับจำนวนโทเคนที่ฝากไว้ในพูลสภาพคล่อง เพื่อคำนวณผลกำไรหรือขาดทุนจริง โดยให้เหตุผลว่า การพิจารณาให้กิจกรรมเหล่านี้ต้องเสียภาษียังไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงทางเศรษฐกิจของธุรกรรมดีไฟ

วงการคริปโตในสหราชอาณาจักรแสดงความยินดีกับทิศทางใหม่นี้ โดยเซียน มอร์ตัน หัวหน้าฝ่ายการตลาดของรีเลย์ โปรโตคอล(Realy Protocol) ระบุว่า “เป็นข้อเสนอที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง” พร้อมให้ความเห็นว่า “ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ที่กู้ยืมสเตเบิลคอยน์โดยใช้คริปโตเป็นหลักประกัน” และเชื่อว่าท่าทีนี้ของรัฐบาลอังกฤษส่งสัญญาณบวกต่อการกำกับดูแลในภาพรวม

มาริอา ลิวารี ทนายความจากแพลตฟอร์มให้บริการกู้ยืมดีไฟอย่าง อาเบ(Aave) ให้ *ความคิดเห็น* ว่า ข้อเสนอนี้สะท้อน “ความเข้าใจในธุรกรรมดีไฟได้อย่างตรงจุด” พร้อมแนะนำให้ประเทศอื่นๆ ศึกษาแนวทางของ HMRC เพื่อนำไปประยุกต์ใช้เช่นกัน

แม้กรอบภาษีใหม่นี้จะอยู่ในขั้นตอนเสนอเท่านั้น และยังต้องใช้เวลาในการออกกฎหมายอย่างเป็นทางการ แต่ก็ถือเป็น *สัญญาณสำคัญ* ว่าสหราชอาณาจักรเริ่มเข้าใจธรรมชาติและโครงสร้างเฉพาะของดีไฟ พร้อมมุ่งเข้าสู่การยอมรับในระดับนโยบายภาครัฐอย่างแท้จริง