ญี่ปุ่นเตรียมปรับโครงสร้างกฎหมายคริปโต ยกระดับเป็นสินค้าทางการเงินเต็มรูปแบบ

ญี่ปุ่นเตรียมเปลี่ยนกรอบกฎหมายควบคุม ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ จากกฎหมายการชำระเงินไปสู่กฎหมายว่าด้วยเครื่องมือทางการเงินและการแลกเปลี่ยน ซึ่งถือเป็นการยกระดับสกุลเงินดิจิทัลให้เป็น ‘สินค้าทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบ’ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มการคุ้มครองนักลงทุน

เมื่อวันที่ 10 ที่ผ่านมา สำนักงานบริการทางการเงินของญี่ปุ่น (FSA) เปิดเผยรายงานฉบับสุดท้ายจากกลุ่มทำงานด้านคริปโตภายใต้สภาปฏิรูประบบการเงิน โดยเสนอแผนการย้ายกรอบการกำกับดูแลคริปโตจาก *กฎหมายบริการการชำระเงิน* ไปสู่ *กฎหมายการซื้อขายตราสารทางการเงิน (FIEA)* ซึ่งเป็นกฎหมายหลักที่ใช้ควบคุมหลักทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่น

รายงานระบุว่า *คริปโตเคอร์เรนซีได้กลายเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ใช้งานอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ* จึงจำเป็นต้องนำกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์มาใช้ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมในการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งจะครอบคลุมไปจนถึงการออกเหรียญ การซื้อขาย และการทำ IEO หรือ ‘การเปิดเสนอขายโทเคนครั้งแรก’ ผ่านตลาดซื้อขาย

หนึ่งในประเด็นสำคัญของแผนการนี้ คือข้อเสนอให้ *เพิ่มความเข้มงวดด้านการเปิดเผยข้อมูลสำหรับ IEO* ซึ่งเป็นวิธีระดมทุนที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในญี่ปุ่น โดย IEO ทำผ่านความร่วมมือระหว่างบริษัทผู้ออกโทเคนและตลาดคริปโต แต่ที่ผ่านมา *นักลงทุนมักไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับความเสี่ยง* สถานะทางการเงิน หรือแผนธุรกิจของโครงการ

รายงานยังระบุด้วยว่า *การซื้อขายคริปโตมีความเหมือนกับการซื้อขายหลักทรัพย์อย่างมาก* โดยเฉพาะเมื่อครอบคลุมถึงเหรียญที่เพิ่งออกใหม่หรืออยู่ในระยะหมุนเวียนในตลาด ดังนั้นการให้ข้อมูลที่ตรงเวลาและครอบคลุมจึงถือเป็นสิ่งจำเป็น

หากการเปลี่ยนแปลงกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ โครงการคริปโตต่างๆ ในญี่ปุ่นจะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นั่นคือการจัดทำรายงานงบการเงิน การเปิดเผยแผนธุรกิจอย่างละเอียด และแจ้งความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่ม ‘ความโปร่งใส’ และ ‘ความน่าเชื่อถือ’ ให้กับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศ

*ความคิดเห็น*: การเปลี่ยนสถานะของคริปโตฯ จากเครื่องมือสำหรับการชำระเงินให้กลายเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนตามกรอบของหลักทรัพย์ อาจทำให้โครงการบางรายต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นในระยะสั้น แต่ในด้านบวกจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงนักลงทุนรายใหญ่และเสริมสร้างโครงสร้างทางกฎหมายในระยะยาว

โดยสรุป ญี่ปุ่นกำลังวางรากฐานให้กับตลาดคริปโตเพื่อเข้าสู่ระบบการเงินภายใต้กฎหมายอย่างแท้จริง ทั้งยังเป็น *สัญญาณที่ชัดเจน* ว่าภูมิภาคเอเชียกำลังขยับเข้าใกล้การควบคุมคริปโตอย่างเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งในอนาคตอาจส่งผลให้ประเทศอื่นๆ อย่างเกาหลีใต้ หรือแม้แต่ไทย ต้องเร่งปรับตัวตาม