ประธานาธิบดีโปแลนด์วีโต้กฎหมายคริปโต ชี้จำกัดเสรีภาพ-เปิดช่องรัฐใช้อำนาจเกินขอบเขต

ประธานาธิบดีของโปแลนด์ใช้สิทธิ์ ‘วีโต้’ ต้านกฎหมายควบคุมคริปโต สร้างกระแสถกเถียงเรื่องเสรีภาพในสังคมอีกระลอก โดยแม้จะได้รับเสียงสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมคริปโต แต่ก็ทำให้เกิดแรงต้านอย่างรุนแรงภายในรัฐบาล

เมื่อวันที่ 24 ประธานาธิบดีคาโรล นัฟรอทสกี้ของโปแลนด์ ประกาศว่าจะไม่ลงนามใน ‘ร่างกฎหมายตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล (Crypto-Asset Market Act)’ ซึ่งเขาให้เหตุผลว่า กฎหมายดังกล่าวเป็นภัยต่อ *เสรีภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สินของประชาชน* พร้อมเปิดเผยจุดยืนนี้ผ่านแถลงการณ์ทางการและโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัว

กฎหมายฉบับนี้ถูกยื่นเข้าสภาเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเผชิญกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่ต้น โดยหนึ่งในนักการเมืองที่คัดค้านอย่างจริงจังอย่างโทมัส เมนเซน เคยให้ความเห็นว่า *“หากประธานาธิบดีไม่ลงนาม เราจะได้หยุดการควบคุมที่เกินขอบเขต”* ซึ่งเขายอมรับว่าการคัดค้านของผู้นำประเทศครั้งนี้ถือว่าไม่เหนือความคาดหมาย

ฝั่งอุตสาหกรรมคริปโตได้ออกมาสนับสนุนการตัดสินใจของนัฟรอทสกี้ทันที โดยมองว่านี่เป็นสัญญาณของ *โอกาสในการขยายตลาด* เช่นเดียวกับแนวโน้มเปิดรับนวัตกรรมที่เชื่อว่ากฎหมายควรเน้นในเรื่อง *เสรีภาพและความโปร่งใสมากกว่าการควบคุมแบบเข้มงวด*

อย่างไรก็ตาม กลุ่มสนับสนุนกฎหมายและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลจำนวนหนึ่งได้แสดงความไม่พอใจ โดยโต้แย้งว่าการใช้สิทธิ์วีโต้ของประธานาธิบดีเป็นการสร้าง *ภาวะไร้ระเบียบ* แทนที่การจัดระเบียบ โดยหนึ่งในข้อถกเถียงสำคัญของกฎหมายคือ *มาตรการบล็อกโดเมนเว็บไซต์* ซึ่งอนุญาตให้รัฐสามารถปิดกั้นเว็บไซต์ที่ถูกตัดสินว่า "ไม่เหมาะสม" หรือ "ผิดกฎหมาย" ซึ่งฝ่ายประธานาธิบดีมองว่าเป็นช่องทาง *จำกัดเสรีภาพและเปิดช่องให้เกิดการใช้อำนาจเกินขอบเขต*

ประธานาธิบดีนัฟรอทสกี้ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า กฎหมายฉบับนี้มี *เนื้อหาซับซ้อนและยืดยาวเกินจำเป็น* และเข้มงวดกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างเช็ก, สโลวาเกีย และฮังการี ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะ *‘การควบคุมเกินจำเป็น’* พร้อมเตือนว่าความไม่ชัดเจนของกฎหมายอาจส่งผลให้หน่วยงานบังคับใช้ตีความได้อย่างหลากหลายเกินไป

การปัดตกกฎหมายครั้งนี้ทำให้ทิศทางนโยบายคริปโตของโปแลนด์ตกอยู่ในสภาวะ *ไม่แน่นอน* ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากผู้ประกอบการและนักลงทุนว่า โปแลนด์ควรมุ่งพัฒนากรอบกฎหมายที่ *สมดุลระหว่างหลักการกำกับดูแล กับเสรีภาพและนวัตกรรมทางดิจิทัล*

‘ความคิดเห็น’: การตัดสินใจของโปแลนด์ถือเป็นแนวทางที่แตกต่างจากมาตรฐานสหภาพยุโรปในปัจจุบัน ซึ่งหลายประเทศเริ่มออกกฎเข้มงวดมากขึ้นกับสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นไปได้ว่าการยืนหยัดในเสรีภาพครั้งนี้อาจสร้างแรงกระเพื่อมในประเทศอื่นที่มีแนวคิดแบบเดียวกัน และเปิดโอกาสให้โปรเจกต์ที่เน้น *ต้านการเซ็นเซอร์* และ *กระจายศูนย์กลาง* มีพื้นที่เติบโตมากขึ้นในภูมิภาคนี้