เดวิด แซกส์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายปัญญาประดิษฐ์และคริปโตของทำเนียบขาว ออกมาโต้กลับรายงานของนิวยอร์กไทมส์อย่างรุนแรง หลังถูกกล่าวหาว่าใช้ตำแหน่งเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและคนใกล้ชิด โดยเขาย้ำว่าข้อกล่าวหานี้เป็น ‘เรื่องไร้สาระที่ไม่มีมูล’
เมื่อวันที่ 9 แซกส์โพสต์ข้อความผ่าน X (ชื่อเดิมคือทวิตเตอร์) ระบุว่า “รายงานของนิวยอร์กไทมส์เป็นเพียงการตัดต่อเรื่องราวไม่มีหลักฐานเพื่อให้บทความดูใหญ่โตเกินจริง” พร้อมตั้งคำถามถึงจริยธรรมทางสื่อ โดยตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา เขาพยายามปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
แซกส์เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและพาร์ตเนอร์ของบริษัทคราฟต์ เวนเจอร์ส (Craft Ventures) ซึ่งสนับสนุนการลงทุนในเทคโนโลยี และยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาพิเศษในรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ บทบาทนี้ทำให้เขาถูกตรวจสอบเรื่อง ‘ประตูหมุน’ หรือการสลับไปมาระหว่างภาคเอกชนและรัฐบาล รวมถึงความเสี่ยงต่อ ‘ผลประโยชน์ทับซ้อน’ โดยเฉพาะการมีบทบาทในนโยบายคลายข้อกำกับในอุตสาหกรรมคริปโต
ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เอลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครต ได้ยื่นคำถามอย่างเป็นทางการถึงบทบาทของแซกส์ โดยเตือนว่าเขาอาจมี ‘ผลประโยชน์ทางการเงินในภาคคริปโต’ และได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของทำเนียบขาว ขณะเดียวกัน แซกส์ยังถูกมองว่าเป็นผู้นำแนวคิดของประธานาธิบดีทรัมป์ ในการผลักดันการผ่อนคลายระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตอีกด้วย
ฝั่งของแซกส์ชี้แจงว่า เขาไม่มีอำนาจตัดสินใจด้านนโยบายโดยตรง และข้อกล่าวหาที่ว่าเขาเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ส่วนตัวนั้นเป็น 'ทฤษฎีสมคบคิด' อย่างไรก็ตาม ท่าทีสนับสนุนคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์ และแนวโน้มการลดกำกับในอุตสาหกรรมยังคงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแซกส์กับภาคคริปโตตกเป็นที่จับตาของสาธารณะ
*คำสำคัญในข่าว: ทำเนียบขาว, เดวิด แซกส์, ประธานาธิบดีทรัมป์, คริปโต, ผลประโยชน์ทับซ้อน, นิวยอร์กไทมส์*
*ความคิดเห็น:* ในบริบทที่อุตสาหกรรมคริปโตกำลังมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นทั่วโลก การวิเคราะห์ประวัติและความเกี่ยวข้องของผู้กำหนดนโยบายอย่างแซกส์จึงมีนัยสำคัญต่อกลยุทธ์การลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว – โดยเฉพาะหากทรัมป์กลับมาบริหาร ทำเนียบขาวอีกครั้งในปี 2024
ความคิดเห็น 0