เควัน รีเสิร์ช(K1 Research) เปิดเผยรายงานล่าสุดว่ากระแสของ *การให้กู้ยืมแบบครอสเชน* กำลังเข้ามาแทนที่แนวคิด *การให้กู้ยืมแบบมัลติเชน* และอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการรวมเครือข่ายการเงินแบบออนเชน พร้อมพลิกโฉมโครงสร้างรายได้ในระบบนิเวศไร้ตัวกลาง โดย *Folks Finance* ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าผ่านสถาปัตยกรรมแบบ ‘ศูนย์กลาง-กิ่งก้าน’ (Hub-Spoke) ที่ช่วยให้สามารถวางหลักประกันและรับเงินกู้ได้บนบล็อกเชนต่างเครือข่ายกัน *โดยไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ระหว่างเชน*
แนวทางของการให้กู้ยืมแบบครอสเชนได้แก้ปัญหาเดิมจากระบบมัลติเชน เช่น ความกระจัดกระจายของสภาพคล่อง (*liquidity fragmentation*) และความเสี่ยงจากการใช้บริดจ์ (*bridging risk*) ทั้งยังเอื้อต่อการใช้เงินทุนอย่างเสรีมากขึ้น เควัน รีเสิร์ชชี้ว่า Folks Finance ได้พัฒนา *พูลสภาพคล่องรวม* ที่เชื่อม Avalanche, Arbitrum, Polygon และ Base เข้าด้วยกัน ขณะเดียวกันก็ใช้ศูนย์กลางเพียงจุดเดียวในการบริหารสถานะของหลักประกันและหนี้ ทำให้ ‘อัตราดอกเบี้ย’ และ ‘การจัดการเงินทุน’ ระหว่างเครือข่ายมีความสอดคล้องกัน
ระบบของ Folks Finance ใช้แนวคิด ‘ส่งข้อความคำสั่งคำสั่งระหว่างเชน’ แทนที่จะโอนสินทรัพย์โดยตรง ผู้ใช้งานสามารถวางหลักประกันบนเครือข่ายหนึ่ง และขอกู้ยืมบนอีกเครือข่ายได้ โดยสินทรัพย์จะคงอยู่บนเครือข่ายต้นทาง แต่ยังสามารถใช้งานทางการเงินได้ราวกับข้ามเชนจริง วิธีนี้ช่วยสร้างระบบทุนรวมที่เชื่อมโยงการเคลื่อนย้ายเงินทุนให้เป็นหนึ่งเดียว แตกต่างจากระบบเดิมที่แต่ละเชนบริหารเงินทุนอย่างแยกจากกัน
*โครงสร้างพูลศูนย์กลาง* นี้ยังเปิดโอกาสให้เกิดผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดย Folks Finance สามารถรวมความต้องการและอุปทานจากหลายเชน เพื่อคำนวณอัตราดอกเบี้ยแบบรวมกัน พร้อมปรับสัดส่วนการจัดสรรทุนให้เคลื่อนไปยังเชนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าโดยอัตโนมัติ ซึ่งส่งผลให้สามารถควบคุมความผันผวนในระยะสั้นได้ดี และเพิ่มโอกาสทำกำไรควบคู่ความมั่นคงในระบบ
ในด้านการขยายโครงสร้างระบบนิเวศ Folks Finance ยังได้สร้างชุดโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินหลายชั้น เช่น *Liquid Staking*, *DEX Router* และ *Ultraswap* บนระบบนิเวศ Algorand พร้อมเปิดตัวโทเคน xALGO ที่เน้นการรักษาสภาพคล่องและสร้างรายได้จากสเตคกิ้ง ในขณะที่การผสาน Li.Fi ก็ยกระดับประสบการณ์การใช้งานด้วยการรองรับ *เชื่อมต่อหลายเชนแบบไร้รอยต่อ*
ทางด้านโครงสร้างแรงจูงใจ Folks Finance มีโทเคนประจำระบบชื่อ FOLKS ที่ผสานการบริหารจัดการชุมชน (*governance*), สิ่งจูงใจเชิงเศรษฐกิจ และระบบจับมูลค่าเข้าด้วยกัน ปัจจุบันมีจำนวนโทเคนในระบบประมาณ 12.2 ล้านโทเคน มูลค่าตลาดตาม FDV ราว 400–450 ล้านดอลลาร์ โดยอัตราส่วนมูลค่าตลาด/TVL ยังอยู่ในระดับกลางของกลุ่มโปรโตคอลสินเชื่อ จึงมี *ศักยภาพในการเติบโตด้านมูลค่าและเครือข่าย* เมื่อพัฒนาต่อไปในอนาคต
เควัน รีเสิร์ชสรุปว่า Folks Finance กำลังทรานส์ฟอร์มตนเองจากแพลตฟอร์มบนเชนเดียว ไปสู่ *โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินครอสเชน* อย่างเต็มรูปแบบ ที่สามารถเชื่อมโยงความต้องการขอสินเชื่อจากเครือข่ายต่างๆ ให้กลายเป็น ‘เลเยอร์ปฏิบัติการเดียว’ ซึ่งความแพร่หลายของแนวคิดครอสเชนนี้ *อาจปฏิวัติโครงสร้างสภาพคล่องและประสิทธิภาพของระบบการเงินออนเชน* และช่วยคลี่คลายปัญหาคอขวดเชิงโครงสร้างในระบบ DeFi ได้ในระยะยาว
ความคิดเห็น 0