ตลาดอนุพันธ์คริปโตของตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก (CME) ทำสถิติสูงสุดในเดือนมกราคม
ตามรายงานของ CCData เมื่อวันที่ 6 ยอดซื้อขายอนุพันธ์คริปโตในตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก (CME) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ประมาณ 28.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.01 ล้านล้านบาท) ในเดือนมกราคม ซึ่งเพิ่มขึ้น 8% จากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะ ‘บิตคอยน์(BTC) ฟิวเจอร์สและออปชัน’ เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น
บิตคอยน์(BTC) ฟิวเจอร์สในเดือนมกราคมมีมูลค่าซื้อขายรวมราว 220 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.84 ล้านล้านบาท) ขณะที่ออปชันอยู่ที่ 6 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 214 พันล้านบาท) ในทางตรงกันข้าม ปริมาณซื้อขายฟิวเจอร์สของ ‘อีเธอเรียม(ETH)’ อยู่ที่ 41 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.46 ล้านล้านบาท) ลดลง 13% จากเดือนก่อน
ความนิยมของฟิวเจอร์สบิตคอยน์บน CME เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหมู่นักลงทุนสถาบัน ตามข้อมูลจาก Glassnode เมื่อวันที่ 29 มกราคม สถานะเปิดของฟิวเจอร์สบิตคอยน์ใน CME อยู่ที่ประมาณ 58 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.07 ล้านล้านบาท) ชี้ให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนรายใหญ่
เพื่อขยายตลาดกลุ่มนักลงทุนรายย่อย CME มีแผนเปิดตัว ‘Bitcoin Friday Futures Option’ ซึ่งเป็นออปชันของ ‘Bitcoin Friday Futures’ ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว จุดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้คือการออกแบบให้มีขนาดเล็กลงโดยสามารถซื้อขายในขนาด 1/50 ของบิตคอยน์
การเติบโตของตลาดอนุพันธ์คริปโตมีความสอดคล้องกับการเปิดตัว ‘ออปชัน ETF บิตคอยน์แบบสปอต’ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยตลาดหลักทรัพย์หลักในสหรัฐฯ เช่น Nasdaq และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ให้เริ่มต้นการซื้อขายออปชัน ETF บิตคอยน์แบบสปอต ในวันเปิดตัว ออปชัน ETF บิตคอยน์ของ BlackRock สร้างปริมาณซื้อขายถึง 2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 71.3 พันล้านบาท) แสดงถึงความต้องการที่สูงในตลาด
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่า ออปชัน ETF ของบิตคอยน์จะช่วยเร่งการไหลเข้าของนักลงทุนสถาบันและอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความผันผวนของราคาบิตคอยน์ รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ โดยรวม
ความคิดเห็น 0