เมื่อวันที่ 6 (เวลาท้องถิ่น) ก่อนการไต่สวนของคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและสืบสวนของคณะกรรมาธิการบริการทางการเงินสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ องค์กรเฝ้าระวังทางการเงิน ‘เบตเตอร์ มาร์เก็ตส์(Better Markets)’ ได้ออกมาปกป้องหน่วยงานกำกับดูแลจากข้อกล่าวหาที่ว่า รัฐบาลกำลังพยายามตัดสถาบันการเงินออกจากอุตสาหกรรมคริปโต
เชนา โอเลซิอุก หัวหน้าฝ่ายนโยบายธนาคารขององค์กรดังกล่าว ระบุว่าคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับ ‘Operation Choke Point 2.0’ หรือการปิดกั้นทางการเงินโดยปริยาย นั้นเป็นเรื่อง ‘เกินจริง’ พร้อมชี้ว่า สำนักงานประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) กำลังตอบโต้ ‘ข้อมูลที่เป็นเท็จและทำให้เกิดความเข้าใจผิด’ จากฝั่งฟินเทคและบริษัทคริปโตเท่านั้น
การไต่สวนครั้งนี้มีขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อกล่าวหาว่าบริษัทคริปโตบางแห่งถูกตัดขาดจากเครือข่ายทางการเงินแบบดั้งเดิม ในปี 2022 FDIC ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังธนาคารเพื่อเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างไรก็ตาม โอเลซิอุกกล่าวว่า หนังสือแจ้งดังกล่าวรวม 22 ฉบับ ไม่มีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย และเป็นเพียง ‘คำเตือน’
นอกจากนี้ เธอยังชี้ว่า ภายใต้กฎระเบียบปัจจุบัน ธนาคารไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยเหตุผลในการปิดบัญชีลูกค้า ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ หากสามารถแก้ไขข้อจำกัดนี้ ก็อาจช่วยลดการเข้าใจผิดระหว่างภาคธนาคารและบริษัทคริปโตได้
ในวันเดียวกัน พอล เกรวาล หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของคอยน์เบส(Coinbase) และ เฟรด ทิล ซีอีโอของ MARA ได้ยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ พวกเขาแสดงความเห็นว่า FDIC ใช้อำนาจเกินขอบเขตและมีความโปร่งใสไม่เพียงพอ
เมื่อวันที่ 5 ก่อนหน้านี้ มีการตั้งข้อสังเกตในวุฒิสภาว่าคณะกรรมาธิการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) อาจมีบทบาทในการขัดขวางบริษัทคริปโตจากการเข้าถึงบริการธนาคาร
ทั้งการไต่สวนของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐมีขึ้นหลังจาก FDIC เผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับการสื่อสารระหว่างหน่วยงานกับธนาคารจำนวน 790 ฉบับ นอกจากนี้ ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐยังได้สั่งให้เผยแพร่เอกสารเพิ่มเติมตามคำร้องขอของคอยน์เบสภายใต้กฎหมาย Freedom of Information Act (FOIA)
การพิจารณาคดีครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่กำหนดทิศทางของหน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐต่ออุตสาหกรรมคริปโตในอนาคต
ความคิดเห็น 0