แฟรงคลิน เทมเพิลตันยื่นขออนุมัติ ETF คริปโตใหม่ อ้างอิงบิตคอยน์และอีเธอเรียม

แฟรงคลิน เทมเพิลตัน ยื่นขออนุมัติ ETF คริปโตใหม่ต่อ ก.ล.ต. สหรัฐฯ

แฟรงคลิน เทมเพิลตันได้ยื่นคำขออนุมัติกองทุนรวม ETF ดัชนีคริปโตใหม่ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่เกิดขึ้นหลังจากบิทไวส์ยื่นข้อเสนอลักษณะเดียวกัน

เมื่อวันที่ 6 เอกสารที่ยื่นต่อ SEC ระบุว่า ‘แฟรงคลิน คริปโต อินเด็กซ์ ETF’ จะเป็นกองทุนหลายสินทรัพย์ที่อ้างอิงราคาสปอตของบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) โดยกองทุนจะซื้อขายบนตลาด Cboe BZX และดำเนินการตามสัดส่วนมูลค่าตลาดของทั้งสองสินทรัพย์ ปัจจุบัน บิตคอยน์ครองสัดส่วน 86.31% ขณะที่อีเธอเรียมอยู่ที่ 13.69% โดยมีกำหนดปรับสมดุลพอร์ตการลงทุนทุกไตรมาสในเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม

แฟรงคลิน เทมเพิลตันเปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจเพิ่มสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ใน ETF นี้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม จะต้องได้รับการอนุมัติเพิ่มเติมจาก SEC และ Cboe BZX ก่อน ทั้งนี้ บริษัทยังไม่ได้ให้การยืนยันว่าสินทรัพย์ใดจะถูกเพิ่มเข้ามาในระยะใกล้นี้

ข้อเสนอดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับ ‘บิทไวส์ บิตคอยน์ & อีเธอเรียม ETF’ ที่บิทไวส์ยื่นเมื่อวันที่ 31 มกราคม โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมองว่าแนวโน้มของบริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ต้องการเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ใช้คริปโตเป็นหลักทรัพย์อ้างอิงมีเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ภายใต้การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในตลาด ETF แฟรงคลิน เทมเพิลตันได้กล่าวถึงความไม่แน่นอนของตลาด โดยระบุว่าการเติบโตของโซลานา(SOL), อาวาแลนช์(AVAX) และคาร์ดาโน(ADA) อาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของบิตคอยน์และอีเธอเรียม ถือเป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่ต้องจับตามอง

ขณะเดียวกัน ในวันเดียวกัน Cboe BZX ได้ยื่นเอกสาร 19b-4 สำหรับการขอจดทะเบียนกองทุน ETF ที่ลงทุนในริปเปิล(XRP) โดยมีผู้บริหารสินทรัพย์หลายรายเข้าร่วม เช่น คานารี แคปิตอล, วิสดอมทรี, 21เชร์ส และบิทไวส์ ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็น ETF แรกในสหรัฐฯ ที่ใช้ XRP เป็นสินทรัพย์หลัก

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าตลาด ETF คริปโตในสหรัฐฯ กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ ปัจจัยด้านการเปลี่ยนแปลงบุคลากรใน SEC ก็กลายเป็นตัวแปรสำคัญ โดยเมื่อวันที่ 20 มกราคม แกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) ลาออกจากตำแหน่งประธาน SEC และให้มาร์ค อุเยดะ(Mark Uyeda) เข้ารับตำแหน่งชั่วคราว นักวิเคราะห์มองว่าอาจส่งผลให้แนวทางการกำกับดูแลคริปโตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่อุเยดะได้แต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายจาก Coin Center เข้าร่วมทีมกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของ SEC

หาก ETF ของแฟรงคลิน เทมเพิลตันได้รับการอนุมัติ การแข่งขันในตลาด ETF คริปโตของสหรัฐฯ จะรุนแรงขึ้นอย่างแน่นอน นักลงทุนกำลังจับตาการตัดสินใจของ SEC อย่างใกล้ชิด