OCC เปิดทางให้ธนาคารสหรัฐร่วมตรวจสอบเครือข่ายบล็อกเชน ส่งผลต่อความเป็นศูนย์กลาง PoS

ทางการสหรัฐฯ อนุญาตให้ธนาคารดำเนินการเป็นผู้ตรวจสอบในเครือข่ายบล็อกเชน สร้างความกังวลเรื่องความเป็นศูนย์กลาง

เมื่อวันที่ 7 สำนักงานควบคุมสกุลเงินของสหรัฐฯ (OCC) ได้ออกแนวทางใหม่ อนุญาตให้ธนาคารเข้าร่วมเครือข่ายผู้ตรวจสอบอิสระ (INVN) ซึ่งเปิดทางให้ธนาคารสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรมในเครือข่ายที่ใช้ระบบพิสูจน์ด้วยการถือครอง (PoS) เช่น อีเธอเรียม(ETH) และโซลานา(SOL) ได้

โบห์ดาน ออฟริชโก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ของ เอเวอร์สเทค (Everstake) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสเตคกิ้ง แสดงความกังวลว่า “หากสถาบันการเงินมีอิทธิพลมากเกินไปในเครือข่าย PoS อาจกระทบต่อการกระจายอำนาจ” พร้อมเสริมว่า “เม็ดเงินขนาดใหญ่จากสถาบันอาจสร้างสภาวะที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ตรวจสอบรายย่อย”

ข้อมูลจากบริษัทสเตคกิ้งรีวอร์ดส์ (Staking Rewards) ระบุว่า ณ วันที่ 12 มีนาคม รายได้จากสเตคกิ้งของอีเธอเรียมอยู่ที่ราว 5.5% ต่อปี ส่วนโซลานาอยู่ที่ 8% อย่างไรก็ตาม หากธนาคารและสถาบันการเงินขนาดใหญ่เข้าสู่ตลาดในปริมาณมาก อัตราผลตอบแทนอาจลดลง

แนวทางของ OCC ในครั้งนี้สอดคล้องกับแนวทาง 'เป็นมิตรกับสินทรัพย์ดิจิทัล' ของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 มกราคม ได้มีคำสั่งบริหารเพื่อรับรอง 'การเข้าถึงบริการทางการเงินที่เป็นธรรมและเปิดกว้าง' สำหรับบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัล นโยบายดังกล่าวทำให้หน่วยงานกำกับดูแลปรับลดท่าทีที่เคยเข้มงวดลง

ปัจจุบัน ธนาคารที่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ และให้บริการสเตคกิ้งสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเป็นทางการมีเพียงแองเคอเรจ ดิจิทัล (Anchorage Digital) เท่านั้น แต่การประกาศแนวทางของ OCC ในครั้งนี้อาจทำให้สถาบันการเงินมีบทบาทในเครือข่าย PoS มากขึ้นในอนาคต