นักลงทุนคริปโตสหรัฐฯ พลาดแอร์ดรอป 2.6 พันล้านดอลลาร์จากกฎระเบียบเข้มงวด

นักลงทุนคริปโตในสหรัฐฯ พลาดโอกาสรับ ‘แอร์ดรอป’ มูลค่าสูงถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์ใน 5 ปี

รายงานล่าสุดจาก ดรากอนฟลาย(Dragonfly) เปิดเผยว่า นักเทรดคริปโตในสหรัฐฯ พลาดโอกาสรับ ‘แอร์ดรอป’ มูลค่าสูงถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากข้อจำกัดด้าน ‘การบล็อกตามภูมิภาค’ ซึ่งเป็นผลมาจากแนวทางการกำกับดูแลที่เข้มงวด

ตามรายงาน ซึ่งครอบคลุมระยะเวลา 2019-2023 พบว่าการแอร์ดรอป 12 รายการหลักถูกจำกัดไม่ให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ เข้าร่วม เป็นเหตุให้นักลงทุนชาวอเมริกันระหว่าง 920,000 ถึง 5.2 ล้านคน หรือประมาณ 5%-10% ของผู้ถือครองคริปโตในประเทศ ไม่สามารถเข้าถึงโอกาสเหล่านี้ได้

การวิเคราะห์ 11 กรณีของ ‘แอร์ดรอปที่ถูกบล็อก’ พบว่ามีการแจกจ่ายโทเค็นมูลค่ารวม 7.16 พันล้านดอลลาร์ให้แก่ผู้เข้าร่วมทั่วโลกกว่า 1.9 ล้านคน โดยมีมูลค่าเฉลี่ยต่อที่อยู่กระเป๋าประมาณ 4,600 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามสำหรับนักลงทุนในสหรัฐฯ การพลาดโอกาสนี้คิดเป็นมูลค่าระหว่าง 1.84 พันล้านดอลลาร์ถึง 2.64 พันล้านดอลลาร์

การสูญเสียโอกาสนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตัวนักลงทุนเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อรายได้จากภาษีของสหรัฐฯ โดยประมาณว่าภาครัฐสูญเสียรายได้จากภาษีจำนวน 418 ล้านดอลลาร์ถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ในระดับรัฐบาลกลาง ส่วนระดับรัฐอาจเสียรายได้อีก 107 ล้านดอลลาร์ถึง 284 ล้านดอลลาร์

อีกประเด็นที่น่ากังวลคือการที่บริษัทคริปโตเลือกที่จะดำเนินธุรกิจนอกสหรัฐฯ ส่งผลให้รัฐบาลสูญเสียแหล่งรายได้สำคัญ ตัวอย่างเช่น เทเธอร์(USDT) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสร้างกำไร 6.2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 แต่เนื่องจากดำเนินกิจการจากต่างประเทศ ทำให้รัฐไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ หากบริษัทตั้งอยู่ในสหรัฐฯ คาดว่าจะต้องจ่ายภาษีบริษัท 1.3 พันล้านดอลลาร์ และภาษีระดับรัฐอีก 316 ล้านดอลลาร์

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมชี้ว่า ‘กฎระเบียบที่เข้มงวดเกินไป’ เป็นปัจจัยสำคัญที่จำกัดการมีส่วนร่วมของนักลงทุนชาวอเมริกันในตลาดคริปโต พวกเขาแนะนำให้หน่วยงานกำกับดูแลพิจารณาปรับแนวทาง เพื่อไม่ให้ประเทศสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจและการลงทุนในภาคสินทรัพย์ดิจิทัล