อีลอน มัสก์(Elon Musk) กำลังขยายอิทธิพลเข้าสู่หน่วยงานหลักของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้เกิดความกังวลว่ารูปแบบการบริหารแบบ ‘สตาร์ตอัป’ อาจเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการดำเนินงานของรัฐบาลไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อไม่นานมานี้ WIRED รายงานว่า มัสก์ได้เข้ามามีบทบาทในสำนักงานบริหารงานบุคคล(OPM) และสำนักงานบริหารบริการทั่วไป(GSA) โดยผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่และเปลี่ยนแนวทางการทำงานไปสู่การใช้เทคโนโลยีมากขึ้น มัสก์ใช้กลยุทธ์คล้ายกับที่เคยนำมาใช้ในเทสลา(TSLA) และสเปซเอ็กซ์ โดยปลดพนักงานจำนวนมากและแทนที่ด้วยบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี
รายงานยังระบุว่า ทีมงานของมัสก์ต้องการนำ ‘ปัญญาประดิษฐ์(AI)’ มาใช้ในภาครัฐอย่างแพร่หลาย รวมถึงพัฒนา ‘ระบบอัตโนมัติ’ เพื่อจัดการงานด้านเอกสารและระบบราชการ โดยมีทีมวิศวกรจากเทสลาที่มุ่งมั่นผลักดันการนำ "AI โค้ดดิ้งเอเยนต์" มาใช้ในแผนก IT ของสำนักงานบริหารบริการทั่วไป อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญแสดงความกังวลเกี่ยวกับ ‘ความน่าเชื่อถือของ AI’ และ ‘ความปลอดภัยของข้อมูล’ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของข้อมูลรัฐบาล
อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์คือ การที่มัสก์ต้องการเข้าถึงข้อมูลของหน่วยงานรัฐบาล เช่น กระทรวงการคลัง ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค(CDC) และกระทรวงศึกษาธิการ ทีมงานของเขากำลังรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลสำคัญ เพื่อใช้ในการปรับโครงสร้างองค์กรและลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐ นักวิจารณ์เตือนว่าหากข้อมูลดังกล่าวถูกเชื่อมโยงกับบริษัทเอกชน อาจนำไปสู่ ‘ผลประโยชน์ทับซ้อน’ หรือปัญหาด้านจริยธรรม
มัสก์ยังถูกจับตามองในเรื่องการนำระบบงบประมาณแบบ ‘ศูนย์ฐาน(Zero-Based Budgeting)’ มาใช้ในรัฐบาล ซึ่งเป็นแนวทางที่รีเซ็ตงบประมาณทั้งหมดและพิจารณารายจ่ายจากศูนย์ใหม่ แม้ว่าวิธีนี้อาจช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก แต่ก็อาจกระทบต่อ ‘บริการสาธารณะ’ ที่จำเป็นแล้วนำไปสู่ ‘การลดจำนวนพนักงาน’ อย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ(USAID) ได้ลดจำนวนบุคลากรลงเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้โครงการสำคัญบางโครงการต้องหยุดชะงัก
บรรดานักการเมืองและกฎหมายในสหรัฐฯ เตือนว่าการที่มัสก์เข้ามากำหนดทิศทางการบริหารรัฐบาลอาจนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมาย โดยชี้ว่า "การบริหารประเทศควรอยู่บน ‘หลักประชาธิปไตย’ ไม่ใช่การควบคุมของนักธุรกิจเพียงรายเดียว" พร้อมเตือนถึงผลกระทบที่อาจเปลี่ยนโฉมระบบราชการให้เป็นแบบองค์กรเอกชนจนยากจะแก้ไข
แม้จะมีเสียงสนับสนุนว่ามัสก์กำลังนำ ‘นวัตกรรม’ มาใช้เพื่อสร้าง ‘รัฐบาลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น’ แต่ก็มีข้อกังขาว่าหากนโยบายเหล่านี้ดำเนินไปอย่างสุดโต่ง อาจเป็นภัยต่อ ‘ค่านิยมประชาธิปไตย’ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องติดตามกันต่อไปว่าผลกระทบของแนวทางบริหารในแบบของมัสก์จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างรัฐบาลสหรัฐฯ ไปในทิศทางใด
ความคิดเห็น 0