พอล แอตกินส์จ่อขึ้นแท่นประธาน SEC อาจส่งผลบวกต่อตลาดคริปโต

ประธานาธิบดีทรัมป์แต่งตั้งพอล แอตกินส์เป็นประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) โดยขณะนี้กำลังเข้าสู่กระบวนการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ การพิจารณาครั้งสำคัญจะมีขึ้นในวันที่ 27 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่กำหนดให้วุฒิสภาสหรัฐฯ จัดการไต่สวนเกี่ยวกับการแต่งตั้งของเขา

ทรัมป์เสนอชื่อแอตกินส์ให้รับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ปีที่แล้ว แต่กระบวนการแต่งตั้งล่าช้าเนื่องจากประเด็นเกี่ยวกับทรัพย์สินและความสัมพันธ์ทางครอบครัวของเขากับตระกูลมหาเศรษฐี ยังไม่มีความชัดเจนว่า ทำเนียบขาวได้ส่งเอกสารที่จำเป็นไปยังวุฒิสภาหรือไม่ แต่ทิม สก็อตต์ ประธานคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภาเปิดเผยว่า การพิจารณาคดีจะเดินหน้าตามกำหนด

ถึงแม้แอตกินส์ยังต้องผ่านการโหวตจากวุฒิสภาเต็มคณะก่อนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่การไต่สวนที่กำลังจะมาถึงถือเป็นก้าวสำคัญ นอกจากนี้ ในวันที่ 21 มีนาคม จะมีการประชุมสองพรรคเพื่อหารือเกี่ยวกับการแต่งตั้งครั้งนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณว่ากระบวนการกำลังคืบหน้า

ปัญหาด้านการเปิดเผยทรัพย์สินของแอตกินส์เกิดจากความเกี่ยวพันของเขากับบริษัท TAMKO Building Products LLC ซึ่งดำเนินการโดยครอบครัวภรรยาของเขา บริษัทดังกล่าวมีรายรับประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2023

แอตกินส์มีประสบการณ์ด้านกฎหมายและกฎระเบียบตลาดทุนอย่างกว้างขวาง โดยดำรงตำแหน่งกรรมาธิการของ SEC ระหว่างปี 2002-2008 และเคยเป็นทนายความองค์กรที่สำนักงานกฎหมาย Davis Polk & Wardwell LLP ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคาดหวังว่า เขาจะมีท่าทีเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่าประธาน SEC คนก่อนหน้า แกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler)

ปัจจุบัน มาร์ค อูเอย์ดะ(Mark Uyeda) รักษาการประธาน SEC ได้ดำเนินมาตรการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง รวมถึงการตั้งหน่วยงานเฉพาะด้านคริปโตเคอร์เรนซี และการยกเลิกแนวปฏิบัติด้านบัญชีที่เคยกำหนดให้สถาบันการเงินต้องบันทึกสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหนี้ นอกจากนี้ SEC ยังได้ยุติคดีความบางส่วนกับบริษัทคริปโตชั้นนำ เช่น คอยน์เบส(Coinbase), คอนเซนซิส(Consensys), โรบินฮูด(Robinhood), เจมิไน(Gemini), ยูนิสวอป(Uniswap) และโอเพนซี(OpenSea) ซึ่งสะท้อนถึงการลดระดับความเข้มงวดของมาตรการกำกับดูแล

SEC กำลังพิจารณายกเลิกข้อกำหนดเดิมที่บังคับให้บริษัทคริปโตจดทะเบียนเป็นตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่กฎระเบียบด้านการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผลักดันโดยรัฐบาลไบเดนอาจถูกยกเลิกเช่นกัน ตามการเปิดเผยของอูเอย์ดะ

หากแอตกินส์ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธาน SEC อย่างเป็นทางการ อุตสาหกรรมคริปโตอาจได้รับผลกระทบในเชิงบวกจากนโยบายที่สนับสนุนการเติบโตของตลาดมากขึ้น นักลงทุนและผู้เกี่ยวข้องจับตาดูทิศทางของหน่วยงานกำกับดูแลภายใต้การนำใหม่ของเขาอย่างใกล้ชิด