ริชาร์ด เต็ง(Richard Teng) ซีอีโอของไบแนนซ์(Binance) ได้เน้นย้ำถึงบทบาทของนักลงทุนสถาบันและการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขยายการนำ ‘บิตคอยน์(BTC)’ ไปใช้ในวงกว้าง
เต็งกล่าวว่า "กฎระเบียบที่ครอบคลุมและการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของนักลงทุนสถาบันกำลังทำให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบการเงินแบบดั้งเดิม"
ตลาด ‘กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอต’ ในสหรัฐฯ ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมกราคม 2024 ได้รวบรวมเงินทุนกว่า 44.2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.61 ล้านล้านบาท) ภายในหนึ่งปีเท่านั้น เฉพาะเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดมากถึง 5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 182,500 ล้านบาท) ด้าน แมตต์ โฮแกน(Matt Hougan) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบิตไวส์(Bitwise) คาดการณ์ว่า เม็ดเงินสะสมทั้งหมดอาจทะลุ 50 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.82 ล้านล้านบาท) ภายในสิ้นปี 2025
ตามรายงานของไบแนนซ์เมื่อเดือนตุลาคม 2024 พบว่า 80% ของความต้องการ ETF บิตคอยน์แบบสปอต มาจากนักลงทุนรายย่อย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสถาบันเริ่มเข้าสู่ตลาดนี้มากขึ้น โดยเฉพาะที่ปรึกษาการลงทุนและกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่กำลังให้ความสนใจอย่างรวดเร็ว
บางส่วนของนักลงทุนได้เปลี่ยน ‘บิตคอยน์’ ที่เคยถืออยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัลหรือบนกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ ไปยังผลิตภัณฑ์ ETF ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มที่ต้องการเพิ่มการคุ้มครองทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ภายในชุมชนคริปโตยังคงมีเสียงคัดค้าน โดยมีแนวคิดว่าการกระจายอำนาจอย่างแท้จริงควรเป็นสิ่งที่ช่วยรับประกันอธิปไตยทางการเงิน
อีกด้านหนึ่ง ความสนใจของนักลงทุนสถาบันต่อ ‘สัญญาฟิวเจอร์สของบิตคอยน์’ กำลังลดลง ในขณะที่ความต้องการ ETF แบบสปอต ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ กลุ่มทรัมป์ มีเดีย แอนด์ เทคโนโลยี กรุ๊ป(TMTG) ซึ่งเป็นของ ‘ประธานาธิบดีทรัมป์’ ได้ดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับผลิตภัณฑ์ ETF และ SMA (บัญชีบริหารเงินส่วนบุคคล) หลายรายการ ซึ่งรวมถึง ‘ทรูธไฟ บิตคอยน์ พลัส ETF’ และ ‘ทรูธไฟ บิตคอยน์ พลัส SMA’ ที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์อีกด้วย
ความคิดเห็น 0