กฎระเบียบคริปโตสหรัฐฯ คืบหน้า แต่วิกฤตเศรษฐกิจถดถอยกดดันตลาด

ตลาดคริปโตเติบโตควบคู่ไปกับการขยายตัวของกฎระเบียบ แต่ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ กำลังกดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุน

รัฐสภาสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่จุดร่วมเกี่ยวกับกฎระเบียบของคริปโตและสเตเบิลคอยน์ โดยคาดว่าจะมีการผ่านกฎหมายสำคัญในปีนี้ โร คันนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตในรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่า สมาชิกสภากว่า 70 คนเห็นพ้องถึงความจำเป็นในการกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์ และมีแนวโน้มที่โครงสร้างกฎหมายใหม่เกี่ยวกับตลาดคริปโตจะได้รับการอนุมัติ อย่างไรก็ตาม นโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ได้กระตุ้นความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้ตลาดคริปโตยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองในทันที

แคธี วูด ซีอีโอของอาร์ค อินเวสต์ เตือนถึงความเป็นไปได้ของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในการประชุม Digital Asset Summit ในนิวยอร์ก เธอกล่าวว่า "ความเร็วหมุนเวียนของเงิน" ในระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและการลงทุนของภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตาม เธอยังมองว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจเปิดทางให้รัฐบาลทรัมป์และธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ใช้นโยบายลดภาษีและผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ในอีกด้านหนึ่ง โบ ไฮน์ส หัวหน้าคณะที่ปรึกษาด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของทรัมป์ เปิดเผยว่า ร่างกฎหมายสเตเบิลคอยน์ของสหรัฐฯ อาจผ่านการอนุมัติภายในสองเดือนข้างหน้า คณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภาเพิ่งอนุมัติร่างกฎหมาย ‘American Stablecoin Innovation Act (GENIUS Act)’ ซึ่งหากนำมาใช้จริง จะกำหนดแนวทางที่ชัดเจนสำหรับผู้ออกสเตเบิลคอยน์ และกำหนดให้มีการปฏิบัติตามข้อบังคับต่อต้านการฟอกเงิน

ขณะเดียวกัน บริษัทไอดีนา แลบส์ และ ซีเคียวริไทซ์ ประกาศเปิดตัวบล็อกเชน ‘คอนเวิร์จ’ ที่มุ่งเป้าไปยังตลาดการเงินแบบกระจายศูนย์(DeFi) และสินทรัพย์ที่ถูกโทเคนไนซ์ คอนเวิร์จสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ ‘อีเธอเรียม เวอร์ชวล แมชชีน(EVM)’ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชัน DeFi ได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งผสานโซลูชันทางการเงินระดับสถาบัน เพื่อเสริมสร้างการเชื่อมต่อระหว่างตลาดการเงินแบบดั้งเดิมและแอปพลิเคชันกระจายศูนย์

นอกจากนี้ แคนนารี แคปิตอล ได้ยื่นขออนุมัติเปิดตัวกองทุน ETF สำหรับบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ‘ซุย(SUI)’ กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC) หลังจากความสำเร็จของบิตคอยน์ ETF นักลงทุนนิติบุคคลกำลังขยายการเข้าถึงคริปโตมากขึ้น โดยแคนนารี แคปิตอล ได้เสนอขอเปิดตัว ETF ที่อ้างอิงกับคริปโตไปแล้วถึง 6 กองทุน

แม้ว่าตลาดคริปโตจะมุ่งหน้าสู่การเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินกระแสหลักอย่างต่อเนื่อง แต่เศรษฐกิจที่ชะลอตัวและนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจกำหนดทิศทางของตลาดในอนาคต