อุตสาหกรรมขุดบิตคอยน์เผชิญแรงกดดัน แม้ค่าแฮชยังทรงตัว

แม้ว่าอุตสาหกรรม ‘ขุดบิตคอยน์(BTC)’ ยังคงเผชิญกับความท้าทาย แต่ดูเหมือนว่าราคาค่าแฮช(hashprice) จะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แม้ว่าความยากในการขุดจะเพิ่มขึ้นก็ตาม

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ตามข้อมูลจาก CoinWarz พบว่าความยากของเครือข่ายบิตคอยน์เพิ่มขึ้นเป็น 113.76 ล้านล้านที่บล็อก 889,081 ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.4% จากระดับเดิมที่ 112.1 ล้านล้าน อย่างไรก็ตาม ‘ค่าแฮช’ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของนักขุด ยังคงอยู่ที่ประมาณ 48 ดอลลาร์ต่อเพตะแฮช(PH/s)

TheMinerMag วิเคราะห์ว่าหากค่าแฮชยังคงต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อเพตะแฮช ผู้ที่ยังใช้เครื่องขุดรุ่นเก่า เช่น ‘แอนต์ไมเนอร์ S19 XP’ และ ‘S19 โปร’ อาจเผชิญกับแรงกดดันในการดำเนินงาน นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบนเครือข่ายที่ลดลงยังส่งผลกระทบต่อรายได้ของนักขุด หลายฝ่ายมองว่าบางบริษัทอาจเลือกที่จะปิดเครื่องขุดชั่วคราวจนกว่าความสามารถในการทำกำไรจะฟื้นตัว

ขณะเดียวกัน ‘การลดรางวัลบิตคอยน์’ ในเดือนเมษายน 2024 ทำให้รางวัลต่อบล็อกลดเหลือ 3.125 BTC สร้างภาระให้กับอุตสาหกรรมการขุดมากขึ้น นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจระดับโลกยังเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดโดยรวม ซึ่งอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อการดำเนินงานของบริษัทขุด

จากการศึกษาของ JPMorgan ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2025 พบว่าราคาหุ้นของบริษัทขุดบิตคอยน์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลดลงเฉลี่ย 22% นอกจากนี้ แม้แต่บริษัทที่พยายามขยายธุรกิจไปสู่ ‘ปัญญาประดิษฐ์(AI)’ และศูนย์ข้อมูลสมรรถนะสูง ก็ยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านกำไร

ยิ่งไปกว่านั้น อุตสาหกรรม AI กำลังเผชิญความท้าทายใหม่จาก ‘DeepSeek R1’ ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบโอเพนซอร์สที่ช่วยลดต้นทุน ส่งผลให้ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ต้องเผชิญภาระทางการเงินเพิ่มเติม

ในระยะยาว อัตราแฮชรวมของเครือข่ายบิตคอยน์ยังคงเพิ่มสูงขึ้น ทำให้อัตราการแข่งขันในอุตสาหกรรมการขุดรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง ‘สหรัฐฯ’ และ ‘แคนาดา’ ทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นความเสี่ยงเพิ่มเติมสำหรับภาคการขุด นอกจากนี้ รัฐบาลแคนาดายังส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่จะเก็บภาษีจากการส่งออกพลังงานไปยังสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนพลังงานของเหล่านักขุดเพิ่มสูงขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่า ‘ความยากในการขุด’ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว และแนะนำให้บริษัทขุดลงทุนใน ‘ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น’ รวมถึงพัฒนา ‘กลยุทธ์ปรับปรุงการดำเนินงาน’ เพื่อลดต้นทุนและปรับตัวรับมือกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด