SEC ปรับท่าทีสู่ยุคคริปโต หลังรัฐบาลทรัมป์เสนอชื่อ พอล แอทคินส์ เป็นกรรมาธิการ

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนในอุตสาหกรรมคริปโต โดยเฉพาะการไต่สวนของ พอล แอทคินส์ (Paul Atkins) ซึ่งได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการ SEC และมีกำหนดเข้ารับการพิจารณาจากคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในวันที่ 27 มีนาคมนี้

ตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา SEC ได้พลิกนโยบายด้านกฎระเบียบของคริปโตอย่างรวดเร็ว ภายใต้การนำของ มาร์ก อูเยดะ (Mark Uyeda) รักษาการประธาน SEC หน่วยงานได้เริ่มถอนฟ้องคดีที่ดำเนินมาก่อนหน้านี้เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปีต่อบริษัทคริปโตรายใหญ่ เช่น คอยน์เบส(Coinbase) และ ริปเปิล(XRP) การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสัญญาณว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังดำเนินตามนโยบายสนับสนุนคริปโตที่เคยให้คำมั่นไว้ช่วงหาเสียง นอกจากนี้ การที่ SEC ประกาศว่าจะไม่พิจารณาว่ามีมคอยน์ (Meme Coin) เป็นหลักทรัพย์ ถือเป็นจุดยืนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากยุคของ แกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) อดีตประธาน SEC ที่เคยเข้มงวดกับอุตสาหกรรมคริปโต

แอทคินส์ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมาธิการ SEC ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้วโดยประธานาธิบดีทรัมป์ และได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรม คอยน์เบส ริปเปิล และบริษัทคริปโตขนาดใหญ่ต่างคาดหวังว่าหากแอทคินส์ได้รับการแต่งตั้ง กฎระเบียบของ SEC จะผ่อนคลายลง และสภาพแวดล้อมสำหรับตลาดคริปโตจะเอื้อต่อการเติบโต

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายคัดค้านบางส่วนในวุฒิสภาแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของ SEC อย่างฉับพลัน และความเป็นไปได้ที่รัฐบาลทรัมป์อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับอุตสาหกรรมคริปโต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีที่แอทคินส์เคยทำงานให้กับบริษัทที่ปรึกษา Patomak Global Partners และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้คำปรึกษาแก่ FTX ที่ล้มละลาย ทำให้ เอลิซาเบธ วอร์เรน (Elizabeth Warren) วุฒิสมาชิกจากรัฐแมสซาชูเซตส์ แสดงจุดยืนต่อต้านการแต่งตั้งของแอทคินส์ โดยให้เหตุผลว่าเขามีสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับอุตสาหกรรมคริปโต

ขณะนี้ พรรครีพับลิกันครองที่นั่ง 53 ที่ในวุฒิสภา และต้องการเพียง 51 เสียงเท่านั้นเพื่อยืนยันการแต่งตั้งแอทคินส์ ซึ่งดูเหมือนว่าการอนุมัติของเขาไม่น่ามีปัญหา อย่างไรก็ตาม ในระหว่างกระบวนการไต่สวนของวุฒิสภา ยังต้องจับตาดูว่าฝ่ายค้านจะตั้งคำถามเกี่ยวกับอดีตของเขาและนโยบายที่เขาอาจนำมาใช้ใน SEC มากน้อยเพียงใด

หากแอทคินส์ผ่านการรับรองตำแหน่งนี้ คาดว่าในปี 2026 หลังจากที่ แคโรไลน์ เครนชอว์ (Caroline Crenshaw) กรรมาธิการ SEC ที่สังกัดพรรคเดโมแครตหมดวาระ วุฒิสภาจะอยู่ภายใต้การควบคุมของพรรครีพับลิกันอย่างเต็มที่ สถานการณ์นี้อาจทำให้ SEC มีจุดยืนที่เป็นมิตรต่ออุตสาหกรรมคริปโตมากขึ้น และการไต่สวนครั้งนี้อาจเป็นก้าวสำคัญต่ออนาคตของกฎระเบียบคริปโตในสหรัฐฯ