เมื่อวันที่ 21 มีนาคม คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ได้จัดการประชุมโต๊ะกลมเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีเป็นครั้งแรก ขณะที่อดีตผู้อำนวยการฝ่ายบังคับใช้ทางอินเทอร์เน็ตของ SEC อย่าง จอห์น รีด สตาร์ก(John Reed Stark) ออกมาแสดงจุดยืนคัดค้านการปฏิรูปกฎระเบียบอย่างรุนแรง โดยเขายืนยันว่ากฎหมายหลักทรัพย์ที่ตราขึ้นในปี 1933 และ 1934 ไม่ควรถูกแก้ไข และควรพิจารณาสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้กรอบกฎหมายปัจจุบัน
สตาร์กระบุว่า “นักลงทุนคริปโตไม่ใช่แค่ผู้สะสมสินทรัพย์ พวกเขาเป็นนักลงทุนโดยชัดเจน และหน้าที่หลักของ SEC คือการปกป้องนักลงทุน” นอกจากนี้ เขายังกล่าวเสริมว่า “บริษัทคริปโตพยายามยื้อคดีทางกฎหมาย โดยว่าจ้างสำนักงานกฎหมายขนาดใหญ่เพื่อสู้กับ SEC แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็พ่ายแพ้ทั้งหมด”
เขายังตั้งข้อสังเกตว่า คริปโตเคอร์เรนซีไม่ได้สร้างมูลค่าใหม่แบบเดียวกับนวัตกรรมอินเทอร์เน็ตในอดีต พร้อมทั้งปฏิเสธแนวคิดที่ว่าอุตสาหกรรมนี้เป็นภาคส่วนที่สร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งสะท้อนจุดยืนที่ให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายมากกว่าการผ่อนปรนกฎระเบียบ
สตาร์กเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์อุตสาหกรรมคริปโตมาโดยตลอด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว เขาเคยเปรียบเทียบข้อตกลงการเป็นสปอนเซอร์ระหว่างทีมบาสเก็ตบอล NBA ดัลลัส แมฟเวอริกส์ และบริษัทคริปโตอย่าง วอยเอจเจอร์(Voyager) กับการสนับสนุนโดยผู้ผลิตยาเสพติด นอกจากนี้ เขายังสนับสนุนมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดในสมัยที่ แกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) เป็นประธาน SEC โดยกล่าวว่า “คริปโตควรปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ ไม่ใช่ให้กฎหมายต้องปรับให้เข้ากับคริปโต”
อย่างไรก็ตาม จุดยืนที่แข็งกร้าวของสตาร์กต่อคริปโตเคอร์เรนซีก็ถูกวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเช่นกัน นักลงทุนนามว่า มาร์ค คิวบัน(Mark Cuban) เคยออกมาตอบโต้แนวคิดของเขาเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว โดยเรียกความคิดเห็นของสตาร์กว่าเป็น ‘อาการหมกมุ่นกับการต่อต้านคริปโต’
ความคิดเห็น 0