รัฐเคนทักกีออกกฎหมาย 'สิทธิ์บิตคอยน์' ปกป้องผู้ถือครองและนักขุดคริปโต

รัฐเคนทักกีออกกฎหมาย 'สิทธิ์บิตคอยน์' เพื่อปกป้องผู้ใช้คริปโต

รัฐเคนทักกีได้ออกกฎหมาย 'สิทธิ์บิตคอยน์' อย่างเป็นทางการ ซึ่งให้สิทธิ์แก่บุคคลในการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยตัวเอง รวมถึงการดำเนินโหนดบล็อกเชน นอกจากนี้ กฎหมายฉบับนี้ยังห้ามการออกกฎระเบียบที่เลือกปฏิบัติต่อกิจกรรมการขุดคริปโตอีกด้วย

เมื่อวันที่ 24 ตามเวลาท้องถิ่น ผู้ว่าการรัฐเคนทักกี แอนดี บิเชียร์ ได้ลงนามในร่างกฎหมาย 'สิทธิ์บิตคอยน์ (HB 701)' ให้เป็นกฎหมายอย่างเป็นทางการ ร่างกฎหมายนี้ถูกเสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อดัม โบลิง เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ และได้รับการอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์จากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ก่อนที่จะผ่านวุฒิสภาเมื่อวันที่ 13 มีนาคม

สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้คือการรับรอง 'หลักการไม่เลือกปฏิบัติ' ต่อผู้ถือครองคริปโต โดยให้สิทธิ์ในการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลโดยเสรี นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดเพื่อป้องกันไม่ให้ธุรกิจขุดคริปโตได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบในระดับท้องถิ่น พร้อมทั้งระบุว่าผู้ขุดคริปโตไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตการโอนเงิน และกิจกรรมการขุดหรือสเตกกิงไม่ได้ถือเป็นการออกหลักทรัพย์

นอกเหนือจากนี้ รัฐเคนทักกียังกำลังพิจารณากฎหมายที่จะอนุญาตให้รัฐบาลของรัฐสามารถถือครองบิตคอยน์(BTC) ได้ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวเปิดทางให้คณะกรรมการการลงทุนของรัฐ(State Investment Commission) สามารถจัดสรรงบประมาณส่วนเกินได้สูงสุด 10% เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ

ในขณะเดียวกัน รัฐโอคลาโฮมาก็กำลังเดินหน้ากฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างรวดเร็ว โดยในวันเดียวกัน สภาผู้แทนราษฎรโอคลาโฮมาได้ลงมติผ่านร่างกฎหมาย 'กองทุนสำรองบิตคอยน์' (HB 1203) ด้วยคะแนนเสียง 77 ต่อ 15 ซึ่งจะเปิดทางให้รัฐสามารถถือครองบิตคอยน์เป็นกองทุนสำรองได้ และขณะนี้ร่างกฎหมายกำลังเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของวุฒิสภา

ทั้งนี้ องค์กรติดตามนโยบายคริปโต 'บิตคอยน์ ลอว์' ได้วิเคราะห์ว่า โอคลาโฮมากำลังแข่งขันกับเท็กซัสในการถือครองบิตคอยน์ในระดับรัฐ พร้อมเสริมว่าด้วยเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกัน โอกาสที่กฎหมายดังกล่าวจะผ่านการอนุมัติขั้นสุดท้ายจึงมีความเป็นไปได้สูง

ปัจจุบัน หลายรัฐในสหรัฐฯ กำลังเร่งผลักดันกฎหมายเพื่อสนับสนุนการนำคริปโตมาใช้มากขึ้น โดยรัฐแอริโซนาเองก็ได้เสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับกองทุนสินทรัพย์ดิจิทัลสองฉบับ ซึ่งกำลังเข้าสู่กระบวนการลงมติของสภาผู้แทนราษฎร การเคลื่อนไหวเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่รัฐบาลระดับรัฐในสหรัฐฯ กำลังมีทัศนคติที่เป็นบวกต่อบิตคอยน์และเทคโนโลยีบล็อกเชนมากขึ้น