จิบบลิฟายไวรัล! โอเพนเอไอจำกัดสร้างภาพวันละ 3 ครั้ง หลัง ChatGPT-4o ฮิตเกินคาด

หลังการเปิดตัว *ฟีเจอร์สร้างภาพ* ด้วยโมเดล ChatGPT-4o ล่าสุดของโอเพนเอไอ(OpenAI) ก็กลายเป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์พร้อมสร้างคำใหม่อย่าง ‘จิบบลิฟาย(Ghiblify)’ จนได้รับความนิยมถล่มทลาย แต่ความต้องการใช้งานที่พุ่งสูงเกินคาดได้สร้างภาระให้กับระบบเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท จนนำไปสู่การบังคับใช้ ‘ข้อจำกัดการใช้งาน’ เพื่อควบคุมปัญหา ‘ทรัพยากรล้นระบบ’

เมื่อวันที่ 25 แซม ออลต์แมน(Sam Altman) ซีอีโอของโอเพนเอไอ ได้เข้าร่วมกระแสด้วยการโพสต์ภาพตัวเองในเวอร์ชันสตูดิโอจิบบลิสไตล์ลงบน X (เดิมคือ Twitter) แต่เพียงสองวันถัดมา เขาได้ออกมายอมรับว่าความนิยมของภาพที่สร้างจาก ChatGPT เริ่มกระทบต่อระบบโดยรวม โดยกล่าวว่า “GPU ทำงานหนักจนแทบละลาย” พร้อมประกาศเตรียมใช้มาตรการ *จำกัดความเร็วในการร้องขอ (rate limit)* สำหรับการสร้างภาพชั่วคราว พร้อมยอมรับว่ามีปัญหาภาพไม่สามารถสร้างได้ในบางกรณีและกำลังเร่งแก้ไข

ฟีเจอร์สร้างภาพดังกล่าว กลายเป็นที่นิยมจากความสามารถในการสังเคราะห์ภาพให้มีสไตล์คล้ายแอนิเมชันของ *สตูดิโอจิบบลิ* โดยเฉพาะผลงานดังอย่าง ‘Spirited Away’ และ ‘My Neighbor Totoro’ กระแสนี้ได้จุดประกายให้เกิดมีมจำนวนมากตามโซเชียลมีเดียและแม้แต่วงการ *มีมคอยน์* ก็มีราคาที่เคลื่อนไหวตามความนิยมนี้

โอเพนเอไอระบุว่า มาตรการจำกัดความเร็วจะเน้นเฉพาะผู้ใช้แบบฟรีซึ่งอาจถูกจำกัดให้สร้างภาพได้เพียงวันละ 3 ครั้งเท่านั้น โดยให้เหตุผลว่า การควบคุมนี้มีเป้าหมายเพื่อหลีกเลี่ยงประสิทธิภาพระบบลดลงจากคำร้องขอที่พุ่งสูง พร้อมย้ำว่ามาตรการนี้เป็นเพียง ‘แนวทางชั่วคราว’

กระแสความนิยมนี้ยังดึงดูดบุคคลสายเทคและการเมืองเข้าร่วมอีกหลายราย ไม่ว่าจะเป็นอีลอน มัสก์(Elon Musk) ซีอีโอของเทสลา(TSLA) และ X ที่โพสต์ภาพล้อเลียนสไตล์ดิสนีย์ หรือ เดวิด แซกส์(David Sacks) ที่ปรึกษาด้าน AI และคริปโตของทำเนียบขาว ซึ่งแชร์ภาพถ่ายการปราศรัยในรูปแบบจิบบลิ

ในขณะเดียวกัน *Bloomberg* รายงานเมื่อวันที่ 26 ว่ารายได้ของโอเพนเอไอในปีนี้คาดว่าจะทะลุ *12.7 พันล้านดอลลาร์* (ราว 461,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่าจากปีก่อน โดยออลต์แมนเคยกล่าวเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ว่าจะมีการเปิดตัว GPT-4.5 และ GPT-5 ภายในไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนข้างหน้า

การเติบโตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ระดับสูงสร้างทั้งโอกาสและความท้าทายอย่างเร่งด่วน ไม่เพียงแต่สำหรับโอเพนเอไอ แต่รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก โดยจิบบลิฟายเองก็เป็นกรณีศึกษาใหม่ที่สะท้อนว่า *การขยายโครงสร้างพื้นฐาน* และ *การพัฒนาประสบการณ์ผู้ใช้* กลายเป็นโจทย์หลักที่ไม่อาจมองข้าม