ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
บิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ทำสถิติผลตอบแทน ‘แย่ที่สุดในรอบ 7 ปี’ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 ท่ามกลางความผิดหวังต่อท่าทีที่เป็นมิตรต่อคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งกลับไม่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นนโยบายที่เป็นรูปธรรม ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจระดับมหภาคยิ่งซ้ำเติมแรงขายในตลาด
จากข้อมูลของ CoinGlass ทั้ง BTC และ ETH มีผลประกอบการในไตรมาส 1 ที่ย่ำแย่ที่สุดนับจากปี 2018 โดยเฉพาะในเดือนมีนาคม ซึ่งราคาเหวี่ยงลงแรงสุดนับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ปี 2020 ส่งผลให้แนวโน้มฟื้นตัวที่เริ่มไว้ชะงักกลางคัน สำหรับ BTC แม้เคยแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 109,590 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.9 ล้านบาท) จากกระแสข่าวบวกเกี่ยวกับทรัมป์ช่วงต้นปี แต่ภายหลังได้ปรับฐานลงสู่ระดับ 76,700 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.7 ล้านบาท) หรือคิดเป็นการปรับลด 29%
โดยรวม BTC ปรับตัวลดลง 11.82% ตลอดไตรมาส 1 ซึ่งตัดกับแนวโน้มเดิมที่มักพุ่งขึ้นมากกว่า 50% ในช่วงเวลาเดียวกันของแต่ละปี ที่น่าจับตาคือ ครั้งนี้เป็นไตรมาสแรกนับตั้งแต่ปี 2020 ที่ BTC บันทึกการร่วงลงในระดับตัวเลขสองหลัก (-10.83%) และเป็นการปรับฐานหนักที่สุดรองจากไตรมาสแรกปี 2018 ที่ร่วงลง -49.7% สำหรับเดือนมีนาคม BTC ปิดลบ 2.3% นับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่เดือนมีนาคมจบลงด้วยผลตอบแทนติดลบ
ในด้านของอีเธอเรียม ความเคลื่อนไหวเป็นเชิงลบที่ชัดเจนกว่า โดย ETH ปรับลดลงถึง 45.41% ในช่วงไตรมาสแรก ขณะที่เดือนมีนาคมเพียงเดือนเดียวลดลงอีก 18.69% และเมื่อถอยหลังไปในเดือนกุมภาพันธ์ก็ร่วงแรงถึง 31.9% ซึ่งนับว่าเป็นผลงานไตรมาส 1 ที่ ‘ผิดปกติ’ อย่างยิ่ง เนื่องจากก่อนหน้านี้ ETH เคยบันทึกการปิดบวกในไตรมาสแรกแทบทุกปี นับตั้งแต่ปี 2018
ด้าน Bitfinex ชี้ในรายงานว่านี่คือการปรับฐานที่ "สำคัญ" ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์และทางเทคนิค โดยสินทรัพย์หลักหลายตัวร่วงจากจุดสูงสุดลงมาเกือบ 30% ทั้งยังเผยว่าเหรียญทางเลือก (Altcoin) รวมถึงเหรียญมีม (Meme coin) เผชิญความเสียหายมากยิ่งกว่า บางโทเคนร่วงลงกว่า 80% เทียบกับราคาสูงสุดในอดีต
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า ปัจจัยกดดันหลักอยู่ที่ความคาดหวังต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายคริปโตภายใต้รัฐบาลทรัมป์ ที่ยังไม่ปรากฏความชัดเจน ส่งผลให้ความผิดหวังในกลุ่มนักลงทุนกลายเป็นแรงเทขายอย่างรุนแรง ปัจจุบันตลาดกำลังรอฟังสัญญาณชัดเจนด้านนโยบายมากกว่าการประกาศแบบกว้าง ๆ เช่นที่ผ่านมา โดยความเคลื่อนไหวในตลาดคริปโตถัดจากนี้ยังขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลทรัมป์สามารถผลักดันมาตรการด้านดิจิทัลแอสเซตได้จริงหรือไม่
ความคิดเห็น 0