อุตสาหกรรมการขุดบิตคอยน์(BTC) ลดการพึ่งพาพลังงานถ่านหินลงอย่างต่อเนื่องตลอด 13 ปีที่ผ่านมา และกำลังเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในขณะที่การใช้ถ่านหินทั่วโลกในปี 2024 กลับพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ การเคลื่อนไหวของพลังงานที่สวนทางกันนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ‘รอยเท้าทางสิ่งแวดล้อม’ ของบิตคอยน์กำลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
จากรายงานร่วมของสถาบันวิจัยคริปโต MiCA คริปโต อัลไลแอนซ์ และแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลโนเดียนส์(Nodiens) พบว่า สัดส่วนการใช้ถ่านหินในกระบวนการขุดบิตคอยน์ลดลงจาก 63% ในปี 2011 เหลือเพียง 20% ในปี 2024 หรือเฉลี่ยลดลงปีละประมาณ 8% ขณะเดียวกัน พลังงานหมุนเวียนกลับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 5.8% ตลอดช่วงเวลาเดียวกัน
ในทางกลับกัน รายงานของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุว่า ปี 2024 การบริโภคถ่านหินทั่วโลกจะทำสถิติสูงสุดที่ 8.8 พันล้านตัน โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนา เช่น อินเดีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย นำไปสู่ความต้องการใช้ถ่านหินที่ต่อเนื่อง แม้โลกจะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน
รายงานฉบับนี้ยังคาดการณ์แนวโน้มการใช้พลังงานของบิตคอยน์ไปจนถึงปี 2030 โดยจำลอง 5 สถานการณ์ตามระดับราคาบิตคอยน์ ได้แก่ 10,000 ดอลลาร์, 110,000 ดอลลาร์, 250,000 ดอลลาร์, 500,000 ดอลลาร์ และ 1,000,000 ดอลลาร์ โดยหากราคาปรับขึ้น จะทำให้การแข่งขันในการขุดรุนแรงขึ้นและเพิ่มการใช้พลังงานตามมา
ในสถานการณ์ราคากลางที่ 250,000 ดอลลาร์ รายงานคาดว่าพลังงานหมุนเวียนอาจมีสัดส่วนสูงถึง 74.3% ของพลังงานที่ใช้ในระบบการขุด ทั้งนี้ไม่รวมพลังงานจากนิวเคลียร์ ซึ่งสะท้อนว่าเครือข่ายกำลังเคลื่อนไปสู่โครงสร้าง ‘ปลอดคาร์บอน’ อย่างรวดเร็ว พร้อมกันนี้ยังประเมินว่าการใช้พลังงานในการขุดทั้งหมดจะถึงจุดสูงสุดในช่วงปี 2030 ซึ่งสอดคล้องกับการพยากรณ์ในปี 2021 ของบริษัทนิวยอร์กดิจิทัลอินเวสต์เมนต์กรุ๊ป(NYDIG)
NYDIG ชี้ว่า แม้ในสถานการณ์ราคาสูง การใช้พลังงานของบิตคอยน์ก็จะคิดเป็นเพียง 0.4% ของพลังงานขั้นต้นทั้งหมดของโลก และประมาณ 2% ของการผลิตไฟฟ้าทั่วโลก ทำให้ผลกระทบต่อโครงสร้างพลังงานโดยรวมยังค่อนข้างจำกัด
นอกจากนี้ รายงานชี้ว่า บิตคอยน์กำลังวางรากฐานเพื่อรับมือกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งอาจส่งเสริมให้มีเงินทุนไหลเข้าสู่ระบบคริปโตมากขึ้นในระยะยาว และยังแสดงให้เห็นว่าการขุดแบบยั่งยืนเริ่มกลายเป็น ‘ความจริงใหม่’ ของโลกคริปโตด้วยเช่นกัน
ความคิดเห็น 0