โฟร์พิลลาร์สเปิดตัว BARD โมเดลใหม่วัดคุณภาพคอมมูนิตี้คริปโตอย่างลึกซึ้ง

บริษัทวิจัยด้านบล็อกเชนระดับโลกอย่างโฟร์พิลลาร์ส(Four Pillars) ได้เผยแพร่รายงานล่าสุดที่นำเสนอกรอบการวิเคราะห์ใหม่ที่มีชื่อว่า *BARD* เพื่อให้ความชัดเจนในแนวคิดของคำว่า ‘คอมมูนิตี้’ ซึ่งมักถูกใช้อย่างพร่ำเพรื่อในวงการคริปโต BARD ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยแยกแยะ ‘ผู้ใช้งานตัวจริง’ ออกจากผู้ชมชั่วคราวในโครงการต่าง ๆ ตามรายงานของทางโฟร์พิลลาร์ส ทีมวิจัยพยายาม *นิยามความหมายของคอมมูนิตี้ใหม่จากรากฐาน* ผ่านกรอบวิเคราะห์นี้

ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา แนวคิดเรื่อง ‘คอมมูนิตี้’ กลายเป็นคำพูดติดปากในตลาดคริปโต โดยหลายโครงการมักอ้างว่ามีคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่งแต่ในความเป็นจริงกลับหมายถึงกลุ่มผู้ใช้ที่เข้ามาเก็งกำไรในระยะสั้นผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Discord หรือ Telegram ด้วยเหตุนี้ โฟร์พิลลาร์สจึงได้พัฒนา *BARD* ขึ้นมา โดยอิงจาก 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ *ความเชื่อ(Belief), การกระทำ(Action), ความยืดหยุ่น(Resilience), และความหนาแน่น(Density)*

องค์ประกอบแรกคือ ‘*ความเชื่อ*’ ซึ่งสะท้อนถึงเนื้อหาทางอารมณ์หรือแนวคิดร่วมกันของสมาชิกในชุมชน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้คอมมูนิตี้พัฒนาไปสู่รูปแบบของการเคลื่อนไหวทางสังคมมากกว่าการแสวงหากำไรแบบชั่วคราว ประการถัดไป ‘*การกระทำ*’ เป็นดัชนีวัดความจริงใจของคอมมูนิตี้ โดยรวมถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเขียนโค้ด สร้างคอนเทนต์ หรือพัฒนาเครื่องมือ ไม่ใช่แค่การพูดคุยหรือแชร์มีมเท่านั้น

สำหรับ ‘*ความยืดหยุ่น*’ หมายถึงการตอบสนองของคอมมูนิตี้ในภาวะตลาดหมี ชุมชนที่ยังคงสร้างสรรค์เนื้อหาหรือพัฒนาโครงการแม้ในยามเงียบสงบจะถือว่าน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น สุดท้าย ‘*ความหนาแน่น*’ หมายถึงโครงสร้างการเชื่อมโยงของสมาชิกในเครือข่าย โดยคอมมูนิตี้ที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายย่อย เช่น DAO ขนาดเล็ก กลุ่มแชตเฉพาะกิจ หรือการพบปะแบบออฟไลน์ มีแนวโน้มจะมีความมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

โฟร์พิลลาร์สระบุว่า BARD ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อสร้างคะแนนหรือแผนภูมิแบบตัวเลข แต่เป็น *แบบจำลองเพื่อวิเคราะห์เชิงคุณภาพ* ที่ช่วยให้ผู้ก่อตั้งโปรเจกต์ นักลงทุน หรือแม้แต่ผู้ถือเหรียญสามารถประเมิน ‘ความจริง’ ของคอมมูนิตี้ที่อยู่เบื้องหลังโครงการได้ ในยุคที่ปริมาณโพสต์บน Discord กลายเป็นสัญญาณเทียมของความสำเร็จ BARD จึงทำหน้าที่เป็นเครื่องมือกลั่นกรองสำคัญ

ในระบบนิเวศของเว็บ3 ความอยู่รอดของโปรเจกต์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีล้ำสมัยเพียงอย่างเดียว แต่ยังพึ่งพาพลังของคอมมูนิตี้อย่างมาก ดังนั้น การนิยามและวิเคราะห์คอมมูนิตี้ในเชิงโครงสร้างจึงเป็นหมุดหมายสำคัญในการวัดศักยภาพของโปรเจกต์ในระยะยาว

โฟร์พิลลาร์สเชื่อว่า กรอบคิดนี้สามารถช่วยผู้ก่อตั้งโครงการที่ต้องการสร้างความแตกต่างจากโปรเจกต์ที่มีเพียง ‘ผู้ชม’ ได้อย่างแท้จริง พร้อมเสนอแนวทางแก่บรรดานักลงทุนที่กำลังค้นหา *เนื้อเรื่องใหม่ (Narrative)* ที่จะเป็นคำใบ้ของโอกาส ‘อัลฟ่าตัวถัดไป’ ในวงการคริปโตอีกด้วย