คอเนอร์ แมคเกรเกอร์ เปิดตัวเหรียญมีม ‘REAL’ ผ่าน DAO แต่ยอดระดมทุนยังต่ำกว่าคาด

คอเนอร์ แมคเกรเกอร์ แชมป์ UFC และผู้สมัครการเมืองในไอร์แลนด์ เปิดตัวโครงการ ‘REAL’ เหรียญมีมใหม่เมื่อวันที่ 5 ร่วมกับองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ หรือ DAO ชื่อว่า 'Real World Gaming' โดยโครงการนี้ใช้รูปแบบการประมูลแบบ ‘ซีลด์บิด’ ซึ่งผู้พัฒนาระบุว่าจะช่วยให้เกิดความเป็นธรรมกับนักลงทุนทั่วไป และเป็นกลไกป้องกันการแทรกแซงราคาจากบอทหรือโปรแกรมเทรดอัตโนมัติ

แมคเกรเกอร์ให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph ว่า “เราต้องการแสดงให้เห็นว่าการทำงานของเรามีความโปร่งใสและมีความจริงใจ” พร้อมย้ำว่าโครงการนี้จะเป็นตัวอย่างของการขับเคลื่อนอย่างมีจริยธรรม อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้สามารถระดมทุนได้เพียงประมาณ 144,530 ดอลลาร์จากเป้าหมายทั้งหมด 3.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งราคาดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 2.1 ล้านบาทจากเป้าเกือบ 53 ล้านบาท ความสนใจจากตลาดในช่วงแรกถือว่ายังต่ำ แต่ด้วยชื่อเสียงของเขาอาจทำให้เหรียญนี้กลับมาเป็นที่สนใจในอนาคต ความคิดเห็น

ในวันเดียวกันคือวันที่ 5 บิตคอยน์(BTC) ก็มีข่าวสำคัญ เมื่อถูกระบุว่าเป็น ‘วันเกิดปีที่ 50’ ของซาโตชิ นากาโมโต(Satoshi Nakamoto) ผู้สร้างบิตคอยน์ ตามข้อมูลในโปรไฟล์เดิมจากเว็บไซต์ P2P Foundation ซึ่งเขาระบุว่าเป็นชายชาวญี่ปุ่นอายุ 37 ปี และเกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน 1975 กระนั้นตัวตนของนากาโมโตยังคงเป็นปริศนาที่ถูกถกเถียงว่าเป็นใครกันแน่ โดยก่อนหน้านี้เคยมีชื่ออย่าง อดัม แบ็ค(Adam Back) และ นิค ซาโบ(Nick Szabo) ถูกคาดการณ์ว่าอาจเป็นเขา แต่ไม่เคยมีหลักฐานแน่ชัดยืนยันตัวตน

ขณะที่กระเป๋าบิตคอยน์ที่คาดว่าเป็นของนากาโมโต ยังคงถือครองอยู่มากกว่า 1 ล้าน BTC ซึ่งมูลค่าปัจจุบันคิดเป็นราว 1.09 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 1.59 ล้านล้านบาท โดยไม่มีประวัติการโอนออกแม้แต่ครั้งเดียวในรอบกว่า 16 ปี ทำให้เกิดความสงสัยว่าเจ้าของกระเป๋านั้นยังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่ หรือเจตนาจะไม่สัมผัสสินทรัพย์นั้นอีกต่อไป

เมื่อเร็วๆ นี้ บิตคอยน์ถูกนำไปรวมในสินทรัพย์สำรองของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนมุมมองในระดับประเทศ ว่าบิตคอยน์ไม่ได้เป็นเพียงแค่สินทรัพย์ดิจิทัลธรรมดา แต่เริ่มถูกยอมรับว่าเป็น ‘เครื่องมือเก็บรักษามูลค่าทางยุทธศาสตร์’ ความเป็นนิรนามของนากาโมโตในฐานะผู้สร้างจึงกลายเป็นคุณสมบัติสำคัญ ที่ค้ำจุนหลักการ ‘ไร้ศูนย์กลาง’ ของบิตคอยน์มาจนถึงปัจจุบัน

ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันที่ 5 แคโรลีน เครนชอว์(Caroline Crenshaw) หนึ่งในกรรมาธิการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนแนวทาง ‘เข้มงวดกับคริปโต’ ออกแถลงคัดค้านแนวทางการออกข้อกำหนดใหม่สำหรับสเตเบิลคอยน์ โดยระบุว่าเป็น ‘แนวทางที่มีข้อผิดพลาดทั้งด้านกฎหมายและข้อเท็จจริง’

ข้อกำหนดดังกล่าวระบุว่า หากสเตเบิลคอยน์บางกลุ่มผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จะไม่ถือว่าเป็นหลักทรัพย์ และได้รับการยกเว้นจากข้อผูกพันการรายงาน แต่เครนชอว์กล่าวว่า รายงานฉบับนี้มองข้ามความเสี่ยงสำคัญ เช่น วิธีการรักษาเสถียรภาพของราคาหรือความสามารถในการแลกคืนของผู้ออกเหรียญ ความคิดเห็น

แม้บางฝ่ายจะมองว่า นี่คือก้าวสำคัญของ SEC ในการสร้างความชัดเจนทางกฎหมายสำหรับสเตเบิลคอยน์ แต่ภายในองค์กรรวมถึงตลาดคริปโตยังไม่สามารถบรรลุฉันทามติได้อย่างสมบูรณ์ การถกเถียงระหว่างผู้กำหนดนโยบายและผู้เข้าร่วมตลาด จึงยังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือดในอนาคต