ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่อิงกับดัชนี (ETP) กำลังเผชิญกับการไหลออกของเงินทุนอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 7 ตามเวลาท้องถิ่น บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล คอยน์แชร์ส(CoinShares) รายงานว่ามีเงินทุนไหลออกจากผลิตภัณฑ์ ETP รวมกันกว่า 240 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,500 ล้านบาท) ภายในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา สวนทางกับแนวโน้มเงินทุนไหลเข้าสองสัปดาห์ก่อนหน้าที่สูงถึง 870 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.27 หมื่นล้านบาท) ขณะที่มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการของ ETP ทั่วโลกยังอยู่ที่ระดับ 133,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.94 ล้านล้านบาท)
เจมส์ บัตเตอร์ฟิล(James Butterfill) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของคอยน์แชร์ส ให้ความเห็นว่าการไหลออกของเงินทุนในครั้งนี้มีสาเหตุหลักจาก ‘ความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาษีการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ’ ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และทำให้นักลงทุนเริ่มลดความเสี่ยงในพอร์ตของตนเอง
บิตคอยน์(BTC) ETP คือผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยสัปดาห์เดียวมีเงินออกกว่า 207 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,020 ล้านบาท) และถือเป็นครั้งแรกในปีนี้ที่มียอดไหลออกสุทธิในระดับรายเดือนที่ 138 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,020 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม บิตคอยน์ ETP ยังคงมียอดเงินไหลเข้าสะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 1,300 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท)
ในขณะที่ อีเธอเรียม(ETH) ETP ก็มีสภาพคล่องไหลออก 38 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 550 ล้านบาท) ภายในหนึ่งสัปดาห์ แต่ตัวเลขเงินเข้าสะสมทั้งปียังคงอยู่ที่ 279 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,070 ล้านบาท) ส่วน ETP แบบกระจายลงทุนในหลายคริปโต (Multiasset ETP) มียอดไหลออกสุทธิ 144 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,100 ล้านบาท) ตั้งแต่ต้นปี เช่นเดียวกับ ETP ประเภทชอร์ตบิตคอยน์ที่ยังคงมียอดไหลออกมหาศาลที่ 2,600 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.79 แสนล้านบาท)
ในแง่ของบริษัทผู้จัดการสินทรัพย์ ค่ายที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือเกรย์สเกลอินเวสต์เมนท์(Grayscale) โดยสัปดาห์ก่อนมีเงินออกกว่า 95 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,390 ล้านบาท) และเมื่อนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน พบยอดไหลออกรวมสูงถึง 1,400 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.05 หมื่นล้านบาท) ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในบรรดาผู้จัดจำหน่าย ETP ทั้งหมด
ส่วนไอแชร์ส ETF แบรนด์ภายใต้แบล็คร็อก(BlackRock) แม้จะมียอดไหลออก 56 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 820 ล้านบาท) ในสัปดาห์เดียวกัน แต่หากนับรวมรายปี เงินยังคงไหลเข้าถึง 3,200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.67 แสนล้านบาท) ขณะที่โปรเชอร์ส(ProShares) และอาร์กอินเวสต์(ARK Invest) ยังคงรักษาการไหลเข้าได้ที่ 398 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,810 ล้านบาท) และ 146 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,130 ล้านบาท) ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบางแบรนด์ชั้นนำ แม้ภาพรวมของตลาดจะมีแนวโน้มพักฐานก็ตาม
ความคิดเห็น 0