บิทเม็กซ์(BitMEX) เผยโทเคนใหม่พุ่งเฉลี่ย 62.55% ในสัปดาห์แรก ชี้โอกาสลงทุนระยะกลางยังสดใส

บิทเม็กซ์(BitMEX) แพลตฟอร์มซื้อขายอนุพันธ์คริปโตชื่อดัง เผยรายงานวิเคราะห์แนวโน้มราคาของสัญญาฟิวเจอร์สไร้วันหมดอายุ(perpetual futures) ที่จดทะเบียนในตลาดซื้อขายหลักช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2025 โดยเปรียบเทียบข้อมูลจากทั้ง 4 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่ บิทเม็กซ์, ไบนานซ์(Binance), บายบิท(Bybit), และ OKX

ตามรายงานฉบับนี้ พบว่า โทเคนที่เปิดให้ซื้อขายในบิทเม็กซ์มีอัตราการปรับตัวขึ้นเฉลี่ยถึง *62.55%* หลังเปิดให้ซื้อขายวันแรก โดยกว่า *58.33%* ของโทเคนที่จดทะเบียนใหม่ในแพลตฟอร์มยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นหลังเปิดตัว อย่างไรก็ตาม ระบบราคา “แรงซื้อวันแรก” ซึ่งหมายถึงราคาสูงสุดเกิดขึ้นในวันจดทะเบียนวันแรกนั้น มีความแตกต่างกันไปในแต่ละแพลตฟอร์ม โดย OKX มีแนวโน้มสูงที่สุดที่ *70.83%* ของโทเคนแตะจุดสูงสุดในวันแรก ขณะที่ไบนานซ์อยู่ที่ *50%* และบิทเม็กซ์อยู่ในระดับต่ำที่ *41.67%*

รายงานยังเปิดเผยว่า โทเคนส่วนใหญ่ที่เข้าจดทะเบียนในบิทเม็กซ์จะทำจุดสูงสุดภายในสัปดาห์แรก โดยในเชิงสถิติ ค่าสูงสุดมักจะเกิดขึ้นในวันที่ *6* หลังจากวันเปิดซื้อขาย ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึง *กลไกการซื้อขายที่มีสภาพคล่องสูง* และการตอบสนองจากนักลงทุนในระยะสั้น

สเตฟาน ลุตซ์(Stephan Lutz) ซีอีโอของบิทเม็กซ์ กล่าวย้ำว่า “ผลการวิเคราะห์ครั้งนี้แสดงให้เห็นคุณสมบัติของบิทเม็กซ์ในการคัดเลือกโปรเจกต์คริปโตที่มีโอกาสเติบโตได้จริง และช่วยสนับสนุนราคาที่แข็งแรงหลังจดทะเบียน โดยมาจากการกลั่นกรองเข้มงวดและโครงสร้างตลาดที่มั่นคง ซึ่งทำให้นักเทรดสามารถสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างชัดเจน”

การศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า กลไกราคาและพฤติกรรมของสินทรัพย์อนุพันธ์คริปโตนั้นแตกต่างไปตามแพลตฟอร์มที่จดทะเบียน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนควรวิเคราะห์ก่อนกำหนดกลยุทธ์การซื้อขาย โดยเฉพาะในกรณีของบิทเม็กซ์ที่พบว่าสินทรัพย์โดยมากยังมีโอกาสขาขึ้นต่อเนื่องภายหลังเปิดการซื้อขาย จึงถูกมองว่าเป็นโอกาสการลงทุนระยะกลางที่มีศักยภาพ ไม่ใช่เพียงแค่กระแสสั้นๆ เท่านั้น

ทั้งนี้ บิทเม็กซ์ยังเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่นักเทรดมืออาชีพนิยมเลือกใช้เนื่องจากระบบ latency ต่ำ มีสภาพคล่องสูง และความปลอดภัยระดับสูงสุด ปัจจุบันยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์แฮ็กหรือภัยคุกคามด้านความปลอดภัยใดๆ โดยมีระบบการเปิดเผยข้อมูลบัญชีแบบ on-chain ภายใต้แนวทาง ‘หลักฐานสำรอง(Proof of Reserves)’ และ ‘หลักฐานหนี้สิน(Proof of Liabilities)’ ที่เผยแพร่สัปดาห์ละ 2 ครั้งเพื่อรักษาความโปร่งใสเต็มรูปแบบ