ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
แม้ความไม่แน่นอนในตลาดการเงินโลกยังคงดำเนินต่อไป แต่ภาคอุตสาหกรรมคริปโตกำลังแสดงความคาดหวังว่า *สถาบันการเงินจะเพิ่มความต้องการในบิตคอยน์(BTC)* ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเชื่อว่าความชัดเจนด้านกฎระเบียบที่กำลังจะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา จะช่วยกระตุ้นให้กลุ่มการเงินกระแสหลักเข้าสู่ตลาดคริปโตมากยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมา (เวลาท้องถิ่น) ในงาน *Paris Blockchain Week* ที่ประเทศฝรั่งเศส, เอริค เทอร์เนอร์(Eric Turner) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเมซซารี(Messari) และโธมัส ไอเฮนเบอร์เกอร์(Thomas Eichenberger) ผู้ร่วมก่อตั้งธนาคารซิกนัม(Sygnum) ได้ร่วมแสดงความเห็นในเวทีเสวนาว่า “ศักยภาพในการที่ธนาคารจะให้บริการเกี่ยวกับบิตคอยน์จะเริ่มขยายตัวอย่างจริงจังในช่วงครึ่งหลังของปี 2025” พร้อมเสริมว่า “ขณะนี้หน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ เริ่มมีท่าทีเปิดรับคริปโตเคอร์เรนซี, สเตเบิลคอยน์ และบริการที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลของธนาคารมากขึ้นเรื่อยๆ”
เทอร์เนอร์ยังระบุว่า ไตรมาส 2 ของปีนี้อาจดูค่อนข้างเงียบ แต่ “มีแนวโน้มสูงว่าในไตรมาส 3 และ 4 จะเกิดกระแสใหม่ในตลาด” พร้อมแสดง *ความคิดเห็น* ว่า “ปี 2025 จะเป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับตลาดคริปโต”
แม้จะยอมรับว่า ท่าทีที่เป็นมิตรต่อคริปโตของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ถูกมองว่าเป็นสัญญาณบวก แต่ทั้งคู่เน้นย้ำว่า *"การปรับปรุงโครงสร้างระบบกฎหมายโดยรวม"* ต่างหากคือหัวใจสำคัญ เทอร์เนอร์กล่าวว่า “ทั้งกฎระเบียบโครงสร้างของตลาด, กฎหมายเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ และการที่หน่วยงานหลักของสหรัฐฯ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) เริ่มยอมรับคริปโตในทางปฏิบัติ เป็นปัจจัยชี้วัดที่สำคัญ”
ไอเฮนเบอร์เกอร์กล่าวเสริมว่า “ธนาคารระดับนานาชาติที่มีสำนักงานในสหรัฐฯ กำลังเตรียมเปิดให้บริการคริปโตเคอร์เรนซี เช่น การดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลและการซื้อขายแบบสปอต บนพื้นฐานของความชัดเจนด้านกฎระเบียบที่กำลังเกิดขึ้น” พร้อมเปิดเผยว่า ธนาคารหลายแห่งมีแผนอยู่แล้ว แต่มักลังเลเนื่องจากความกังวลต่อการดำเนินการของหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ
เขายังกล่าวอย่างมั่นใจว่า “ตอนนี้ไม่มีเหตุผลอะไรต้องกลัวหน่วยงานกำกับดูแลอีกต่อไป และเราน่าจะได้เห็นธนาคารระดับโลกเริ่มให้บริการบิตคอยน์อย่างเต็มรูปแบบภายในปีนี้”
ขณะเดียวกัน แนวโน้มนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงธนาคารในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังขยายไปยังสถาบันการเงินจากต่างประเทศที่ต้องการเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ เช่นกัน โครงสร้าง *การกำกับดูแลที่ชัดเจนของสหรัฐฯ* กำลังสร้างผลกระทบในวงกว้าง ชี้ให้เห็นว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่อาจ *ขยายการเข้าถึงคริปโตของสถาบันการเงินทั่วโลก*
หากธนาคารกระแสหลักเริ่มให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างแพร่หลาย ผลในระยะกลางถึงระยะยาวไม่เพียงแต่จะเพิ่ม *ความต้องการในบิตคอยน์และคริปโตหลักอื่นๆ* เท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริม *ความน่าเชื่อถือและสภาพคล่องในตลาด* ผ่านการยอมรับในระบบการเงินแบบดั้งเดิมอีกด้วย
ความคิดเห็น 0