ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
บิตคอยน์(BTC) ยังคงเคลื่อนไหวตามวัฏจักร 4 ปี โดยมีเหตุการณ์สำคัญอย่าง ‘การลดรางวัลบล็อก’ เป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อทิศทางราคาทั้งขาขึ้นและขาลง นักลงทุนจำนวนมากจับตาวัฏจักรที่ประกอบด้วย ‘การสะสม-การพุ่งแรง-การปรับฐาน’ และในขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวทางจิตวิทยาระยะสั้นก็ยังคงมีผลต่อพฤติกรรมตลาดโดยรวม
หนึ่งในกลุ่มที่เคลื่อนไหวเด่นชัดในช่วงปรับฐานของตลาด คือผู้ถือบิตคอยน์รายใหญ่หรือ ‘วาฬ’ ข้อมูลล่าสุดจาก Glassnode ระบุว่า กลุ่มผู้ถือระยะยาวที่สะสมบิตคอยน์มาแล้ว 3–5 ปีขึ้นไป ได้ขายออกมากกว่า 2 ล้าน BTC ในรอบสองช่วงใหญ่ของวัฏจักรปัจจุบัน ก่อนจะเริ่มกลับมาซื้อสะสมอีกครั้ง ทำให้โครงสร้างราคามีเสถียรภาพเพิ่มขึ้น และล่าสุด กลุ่มนี้ได้เข้าสู่เฟสสะสมใหม่อีกครั้งโดยมียอดสะสมเพิ่มอีกกว่า 363,000 BTC ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์
ในขณะเดียวกัน บัญชีของวาฬที่ถือบิตคอยน์มากกว่า 1,000 BTC โดยเฉพาะ ‘เมกะวาฬ’ ที่ถือมากกว่า 10,000 BTC ก็กำลังส่งสัญญาณสะสมเพิ่มเติม ตามรายงานจาก BitInfoCharts ปัจจุบันมีวอลเล็ตรูปแบบนี้อยู่ราว 93 ราย โดยดัชนีที่แสดงพฤติกรรมการสะสมจาก Glassnode เริ่มลดลงจากระดับสูงใกล้ 1.0 ในช่วงต้นเดือนเมษายนมาอยู่ที่ประมาณ 0.65 แล้ว ทว่า ‘การสะสมต่อเนื่อง’ ยังคงดำเนินอยู่ ในทางตรงกันข้าม กลุ่มผู้ถือรายย่อยที่ถือ BTC ไม่เกิน 1 เหรียญ หรือไม่เกิน 100 เหรียญ แสดงคะแนนการสะสมเพียง 0.1–0.2 เท่านั้น
‘ความแตกต่างของคะแนนการสะสม’ นี้ สะท้อนให้เห็นการเคลื่อนย้ายของ BTC จากผู้ถือรายย่อยไปยังวาฬ ซึ่งอาจแปลผลในเชิงบวกต่อ ‘แรงหนุนราคาระยะยาว’ สถิติในอดีตแสดงให้เห็นว่า ครั้งล่าสุดที่เมกะวาฬมีคะแนนสะสมสูงสุดอยู่ในช่วงสิงหาคมปีที่แล้ว ซึ่งในเวลานั้น ราคาบิตคอยน์พุ่งจาก 60,000 ดอลลาร์ไปถึง 108,000 ดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักลงทุนระยะสั้นที่ถือ BTC ในช่วงเวลา 3–6 เดือนนั้น มักจะตอบสนองอย่างไวต่อ ‘จิตวิทยาตลาด’ โดยเฉพาะในช่วงแกว่งตัวของราคา ข้อมูลจาก Glassnode ชี้ว่า กิจกรรมขายของกลุ่มนี้มีลักษณะเป็นวัฏจักรย่อยช่วง 8–12 เดือน และในช่วงนี้กำลังอยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนหน้าใหม่จำนวนไม่น้อยยังคงถือครองแทนที่จะ ‘เทขายแบบตระหนก’ อย่างไรก็ตาม หากแนวโน้มราคายังคงถอยหลัง กลุ่มนี้มีโอกาสกลายเป็น ‘ผู้ขายรายแรก’ ตามธรรมชาติของตลาด
การเคลื่อนไหวของราคามีต้นแบบมาจาก ‘ความรู้สึกของมนุษย์’ ไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความโลภ การปฏิเสธ หรือความมั่นใจเกินความจำเป็น ซึ่งทั้งหมดเคลื่อนตลาดได้ชัดเจน ดัชนี ‘ความกลัวและความโลภ’ จาก CoinMarketCap แสดงให้เห็นว่าช่วง 3–5 เดือนที่ผ่านมา ตลาดยังคงอยู่ในระดับ ‘หวาดกลัวสุดขีด’ เสริมด้วยความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ และภาวะตลาดหุ้นโลกที่ซบเซา ยิ่งซ้ำเติม ‘ความกังวลของนักลงทุน’
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของคนมี ‘จังหวะหมุนเวียน’ นักวิเคราะห์มองว่า ตลาดอาจเริ่มพลิกสู่ภาวะ ‘กลาง’ ภายใน 1–3 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะถ้าความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทรัมป์ในเชิงเศรษฐกิจเริ่มคลี่คลาย ความหวังต่อการเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นใหม่ก็จะเพิ่มขึ้น
ท้ายที่สุดแล้ว วัฏจักรของตลาดไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการคาดการณ์ แต่คือ ‘ความเชื่อที่แปรเปลี่ยนเป็นพฤติกรรม’ ลวดลายการสะสมและเทขายที่เกิดซ้ำอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้ตลาดดำเนินไปในทางที่เหมือนจะถูกวางแผนไว้ล่วงหน้า ถึงแม้บิตคอยน์จะไม่ทำตามตารางที่แน่นอน แต่จังหวะการขึ้น-ลงและพฤติกรรมของนักลงทุนกลับคงเดิมเสมอ นี่คือเสน่ห์และความท้าทายของตลาดคริปโตอย่างแท้จริง
ความคิดเห็น 0