สัปดาห์นี้ตลาดการเงินของสหรัฐฯ เตรียมรับมือกับตารางเศรษฐกิจที่แน่นขนัด ขณะที่ ‘ทรัมป์’ มีแนวโน้มจะประกาศมาตรการเพิ่มเติม ซึ่งอาจเพิ่มความผันผวนให้กับตลาดคริปโตมากขึ้น
มีการเตรียมเผยแพร่ดัชนีเงินเฟ้อหลักสองตัว รวมถึงข้อมูลยอดค้าปลีกรายเดือน ท่ามกลางรายงานเศรษฐกิจล่าสุดที่บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจดำเนินไปด้วยดี อีกทั้งความเป็นไปได้ที่ ‘เฟด’ จะคงอัตราดอกเบี้ยก็ได้รับแรงสนับสนุนมากขึ้น นอกจากนี้ ทรัมป์ยังถูกคาดการณ์ว่าจะมีการประกาศเกี่ยวกับนโยบายการค้าซึ่งอาจส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุน
เมื่อวันที่ 10 (เวลาท้องถิ่น) ทรัมป์ได้แถลงว่าสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้า ‘เหล็กและอะลูมิเนียม’ จากทุกประเทศ รวมถึงแคนาดาและเม็กซิโก ในอัตรา 25% และมีแนวโน้มสูงว่าจะมีการเปิดเผยแผนการจัดเก็บ ‘ภาษีตอบโต้’ เพิ่มเติมในช่วงต้นสัปดาห์ ซึ่งอาจเป็นการตอบโต้ประเทศที่เรียกเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ
ในด้านดัชนีเงินเฟ้อ ข้อมูลสำคัญที่ต้องติดตามคือ ‘ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)’ ที่จะประกาศในวันที่ 14 และ ‘ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)’ ที่จะเปิดเผยในวันที่ 15 โดยทั้งสองตัวจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดแนวทางนโยบายการเงินของเฟด ซึ่ง CPI ถือเป็นมาตรวัดแนวโน้มเงินเฟ้อที่สำคัญอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ ‘เจอโรม พาวเวลล์’ ประธานเฟด มีกำหนดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อ ‘สภาคองเกรส’ ระหว่างวันที่ 12-13 ซึ่งอาจทำให้ตลาดเกิดความผันผวนเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ‘คอยน์เบส(COIN)’ แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตรายใหญ่ของสหรัฐฯ ก็เตรียมเผยแพร่รายงานผลประกอบการ ซึ่งอาจส่งผลต่อตลาดเช่นกัน
ตลาดคริปโตเปิดต้นสัปดาห์ด้วยภาวะขาลง โดยข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่ามูลค่าตลาดรวมลดลงกว่า ‘3%’ ภายในวันเดียว แตะระดับประมาณ ‘3.23 ล้านล้านดอลลาร์’ บิตคอยน์(BTC) เคลื่อนไหวลงไปแตะ ‘95,000 ดอลลาร์’ ก่อนฟื้นตัวสู่ ‘97,000 ดอลลาร์’ ส่วนอีเธอเรียม(ETH) ลดลง ‘2.4%’ ก่อนฟื้นตัวมาที่ ‘2,630 ดอลลาร์’
ฝั่งอัลท์คอยน์เผชิญแรงเทขายรุนแรง โดย ‘ริปเปิล(XRP)’, ‘โดชคอยน์(DOGE)’, ‘คาร์ดาโน(ADA)’, ‘สเตลลาร์(XLM)’ และ ‘ชิบะอินุ(SHIB)’ ต่างปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน
เมื่อตัวแปรเชิงนโยบายและเศรษฐกิจที่อาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดกำลังใกล้เข้ามา นักลงทุนควรติดตามปัจจัยเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารความเสี่ยงและปรับแผนการลงทุนให้เหมาะสม
ความคิดเห็น 0