เฟดส่งสัญญาณพร้อมอัดฉีดสภาพคล่อง ขณะแนวโน้มคริปโตสหรัฐฯเปลี่ยนทิศรับยุคทรัมป์

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกมายืนยันว่า พร้อมใช้นโยบายช่วยเหลือหาก 'สภาพคล่องในตลาด' เหือดแห้ง ซูซาน คอลลินส์(Susan Collins) ประธานเฟดสาขาบอสตัน ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times เมื่อวันที่ 24 ว่าหากตลาดเกิดความปั่นป่วนหรือเผชิญปัญหาด้านสภาพคล่อง ‘เฟดจะดำเนินการอย่างจริงจังทันที’ คอลลินส์เป็นสมาชิกที่มีสิทธิออกเสียงในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของปีนี้ ทำให้ถ้อยแถลงของเธอถือว่ามีน้ำหนักในเชิงนโยบาย

แม้เธอจะมองว่ายังไม่มีสัญญาณอันตรายที่ชัดเจนในด้านสภาพคล่อง แต่ก็ย้ำว่าเฟดมีความพร้อมที่จะดำเนินมาตรการดั้งเดิม เช่น ‘การเข้าซื้อสินทรัพย์’ หากสถานการณ์จำเป็นต้องใช้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตลาดพันธบัตรและหุ้นของสหรัฐฯ เผชิญแรงขายพร้อมกัน จนทำให้เกิดความกังวลต่อเสถียรภาพของระบบการเงิน ส่งผลให้เฟดต้องลดเพดานการไม่หมุนเวียนคืนพันธบัตรรัฐบาลลงถึง 80% ซึ่งเป็นการผ่อนคลายนโยบายการดูดซับสภาพคล่อง (QT)

ด้านนโยบายคริปโต รัฐนิวยอร์กได้เริ่มขับเคลื่อนกฎหมายสำคัญ โดยมีการเสนอร่างกฎหมายหมายเลข A7788 ที่จะเปิดทางให้ ‘หน่วยงานภาครัฐสามารถรับชำระด้วยสกุลเงินดิจิทัล’ ไคลด์ วาเนล(Clyde Vanel) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรัฐ เสนอให้แก้กฎหมายการคลังของรัฐ เพื่อรองรับการรับชำระภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ หรือเงินอื่น ๆ ด้วย ‘บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), ไลต์คอยน์(LTC), และบิตคอยน์แคช(BCH)’

ร่างกฎหมายนี้ถือเป็นความพยายามครั้งที่สองของรัฐนิวยอร์กในการกำกับดูแลคริปโต หลังจากที่มีการเสนอร่างกฎหมายล่อลวงลงทุนด้วยคริปโต (Rug Pull) เมื่อเดือนก่อน ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ถูกผลักดันอย่างเร่งรัดมากขึ้น หลังการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อวันที่ 20 มกราคมปีนี้ ซึ่งทรัมป์เคยประกาศต่อสาธารณะว่า จะผลักดันอุตสาหกรรมคริปโตให้กลายเป็นยุทธศาสตร์ระดับชาติ และทำให้สหรัฐฯ เป็น ‘ศูนย์กลางนวัตกรรมบล็อกเชนของโลก’

เมื่อวันที่ 10 ทรัมป์ได้ลงนามในมติให้ยกเลิกกฎ ‘DeFi Broker’ ของกรมสรรพากร(IRS) ซึ่งเป็นข้อกำหนดยุคประธานาธิบดีไบเดนที่จะมีผลบังคับใช้ปี 2027 โดยบังคับให้แพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ต้องรายงานข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงยอดการทำธุรกรรมให้กับรัฐ มาตรการนี้เคยถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นภาระแก่โครงการคริปโตและขัดต่อหลักการไร้ศูนย์กลางของเทคโนโลยีบล็อกเชน

นี่จึงเป็นกฎหมายแรกด้านคริปโตที่ทรัมป์ลงนาม ขณะที่ไมค์ แครี(Mike Carey) ส.ส.ผู้ร่วมเสนอร่างก็กล่าวว่า “นี่เป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์สำหรับอุตสาหกรรมคริปโต” ด้านเดวิด แซคส์(David Sacks) หัวหน้าฝ่ายนโยบาย AI และคริปโตของทำเนียบขาว เปิดเผยตั้งแต่เดือนมีนาคมว่า ทรัมป์สนับสนุนการยกเลิกกฎดังกล่าว

แม้จะมีเสียงวิพากษ์ว่า การยกเลิกกฎนี้อาจเอื้อให้คนรวยหลีกเลี่ยงภาษีด้วยคริปโต แต่ฝ่ายบริหารของทรัมป์ยังคงส่งสัญญาณชัดเจนว่า จะดำเนินนโยบายแบบตลาดเป็นมิตร พร้อมเปิดกว้างต่อ ‘นวัตกรรมคริปโต’ อย่างต่อเนื่อง