บิตคอยน์(BTC) แกร่งสวนตลาดโลก หลังทรัมป์ปั่นตลาดด้วยนโยบายภาษีใหม่

ประธานาธิบดีทรัมป์สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินทั่วโลกหลังจากประกาศใช้นโยบายภาษีศุลกากรฉบับใหม่ที่มุ่งเป้าไปยังประเทศคู่ค้าอย่างกว้างขวางเมื่อวันที่ 2 เมษายน อย่างไรก็ตาม ตลาดคริปโตกลับ ‘ยืนหยัด’ ได้อย่างน่าประหลาดใจ แม้ในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินแบบดั้งเดิมกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่พุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อวันที่ 11 ตามเวลาท้องถิ่น เกร็ก ชิโปลาโร(Greg Cipolaro) หัวหน้าฝ่ายวิจัยระดับโลกของกลุ่มลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลนิวยอร์ก (NYDIG) กล่าวว่าตลาดคริปโตยังคงแสดงสัญญาณของ ‘ความมีระเบียบ’ แม้จะมีแรงเทขายอย่างหนักในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม โดยเขาชี้ว่า ‘*อัตราค่าธรรมเนียมฟันดิ้งของสัญญาฟิวเจอร์สแบบไม่มีวันหมดอายุยังคงบวกอย่างต่อเนื่อง*’ สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระดับหนึ่ง

ภายหลังการประกาศภาษีของทรัมป์ มีการล้างพอร์ตมูลค่ารวม 480 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 2 วันแรก หรือราว 7,000 พันล้านวอนตามข้อมูลตลาด อย่างไรก็ตาม ชิโปลาโรระบุว่า จำนวนดังกล่าวยังน้อยเมื่อเทียบกับการล้างพอร์ตในเหตุการณ์ระดับมหภาคก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงกรณีของ ‘*เทเธอร์(USDT)*’ ซึ่งราคาเคยร่วงลงไปต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ในช่วงสั้น ๆ แต่ *“ไม่มีการตกลงอย่างฉับพลันหรือการเทขายอย่างรุนแรง”* ขณะที่นโยบายภาษีศุลกากรที่ถูกประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายน ได้เปลี่ยนแปลงภายในเวลาไม่กี่วัน เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเลื่อนการบังคับใช้ออกไป 90 วัน และปรับอัตราภาษีขั้นพื้นฐานลงเหลือ 10% จากเดิมที่กำหนดภาษีสูงถึง 145% ต่อจีน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดทวีความไม่แน่นอน

ตลาดหุ้น พันธบัตร และค่าเงินยังคงเผชิญกับแรงเทขาย ขณะที่ ‘*บิตคอยน์(BTC)*’ กลับเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ ชิโปลาโรเน้นว่า แม้บิตคอยน์จะยังมีความผันผวนอยู่บ้าง *แต่ในช่วงราคาปัจจุบันมีแนวโน้มเคลื่อนไหวที่มั่นคงมากกว่าสินทรัพย์ส่วนใหญ่* เขามองว่า “ภายใต้สภาวะความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์นี้ นักลงทุนเริ่มมองหา ‘เครื่องมือเก็บมูลค่า’ ที่ไม่ขึ้นกับรัฐหรือพรมแดน และบิตคอยน์กำลังเข้ารับบทบาทนั้น”

จากข้อมูลล่าสุด *บิตคอยน์ปรับฐานจากระดับสูงสุดที่ 108,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงกลางเดือนมกราคม ลงมาเคลื่อนไหวที่ประมาณ 84,730 ดอลลาร์* คิดเป็นการปรับตัวลงราว 22.5% อย่างไรก็ตาม ชิโปลาโรชี้ว่า *ความแตกต่างด้านความผันผวนระหว่างคริปโตกับตลาดหุ้นได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ* ส่งผลให้กองทุนประเภทจัดสรรสินทรัพย์แบบสมดุลเริ่ม ‘พิจารณา’ เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง

เขาระบุเพิ่มเติมว่า “*หากกองทุนเหล่านี้ทยอยเข้าลงทุนในบิตคอยน์ อาจนำไปสู่การลดความผันผวนในตลาด ส่งผลให้สินทรัพย์มีเสถียรภาพและดึงดูดมากยิ่งขึ้น* และท้ายที่สุดจะก่อให้เกิดวัฏจักรเชิงบวกทั้งในด้านการยอมรับและราคาที่ทรงตัวขึ้น”

อย่างไรก็ตาม มีมุมมองที่ระมัดระวังกว่านั้นจาก *รุสลาน ลิเอนกา(Ruslan Lienkha)* หัวหน้าฝ่ายตลาดของยูโฮดเลอร์(YouHodler) โดยเขาระบุในรายงานเมื่อวันที่ 12 ว่า ถึงแม้ตลาดจะดูเหมือนกำลังฟื้นตัว แต่ *ตัวชี้วัดด้านเทคนิคกำลังส่งสัญญาณเตือน* โดยเฉพาะ ‘*Death Cross*’ ที่อาจกำลังจะเกิดขึ้นทั้งในชาร์ตบิตคอยน์และ S&P500 ซึ่งหมายถึงค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันกำลังตัดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน

“*หากไม่มีแรงขับจากการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน* โอกาสที่ตลาดจะรักษาแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางจะยิ่งลดน้อยลง” ลิเอนกากล่าว สะท้อนให้เห็นว่าความไม่แน่นอนยังไม่จบสิ้น และตลาดยังไม่ถึงจุดที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง