ไบบิต(Bybit) จับมืออาวาลอน(Avalon) เปิดทางสร้างรายได้คงที่จากบิตคอยน์(BTC)

แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตชื่อดังอย่าง ไบบิต(Bybit) ได้ประกาศจับมือกับ อาวาลอน(Avalon) โปรโตคอลผู้ให้บริการด้านการปล่อยกู้ เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์สร้างรายได้จากบิตคอยน์(BTC) ภายใต้บริการ ‘Bybit Earn’ ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถนำบิตคอยน์ของตนมาสร้างรายได้อย่างมั่นคงผ่านโครงสร้างการปล่อยกู้ที่มีดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่น่าจับตาในตลาดคริปโต

อาวาลอนแล็บส์เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 ผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า การร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ของไบบิตสามารถนำ ‘บิตคอยน์’ มาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ พร้อมยืนยันว่าเหรียญ BTC ที่นำมาใช้จะไม่ถูกขายทอดตลาด (liquidate) แม้ในกรณีที่มูลค่าผันผวน โดยขณะนี้ อาวาลอนเปิดให้บริการปล่อยกู้ USDt(เทเธอร์) แก่นักลงทุนสถาบันในอัตราดอกเบี้ย 8%

หัวใจหลักของโครงสร้างนี้อยู่ที่ ‘FBTC’ โทเคนที่แปลงมูลค่าจากบิตคอยน์แบบ 1:1 ซึ่งพัฒนาโดยความร่วมมือระหว่างโปรโตคอลดีไฟชื่อ แมนเทิล(Mantle) กับผู้พัฒนาเทคโนโลยีบิตคอยน์ อันทาลฟา ไพรม์(Antalpha Prime) โดยตัวโทเคนสามารถถูกนำไปใช้งานบนเชนอื่น เช่น อีเธอเรียม(ETH) ผ่านการเชื่อมโยง (bridging) ผู้ใช้งานสามารถมอบหมาย FBTC ผ่านไบบิต และเข้ารับผลตอบแทนคงที่จากแพลตฟอร์มของอาวาลอนได้

ก่อนหน้านี้ อาวาลอนได้นำเสนอแผนงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลอย่าง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แห่งสหรัฐฯ(SEC) โดยพิจารณาออก ‘กองทุนหนี้สาธารณะ’ ที่อิงกับบิตคอยน์ภายใต้กฎหมาย Regulation A ซึ่งทางผู้ร่วมก่อตั้ง วีนัส ลี(Venus Lee) ระบุว่า กำลังศึกษาหนทางในการนำกฎเกณฑ์ในตลาดการเงินดั้งเดิมมาปรับใช้ในโลกคริปโต

ระบบ CeDeFi ของอาวาลอนออกแบบให้รับ FBTC เป็นหลักทรัพย์ เพื่อระดมทุนเป็นรูปแบบ USDt แล้วนำไปบริหารจัดการตามกลยุทธ์ของอีเธอนาแล็บส์(Ethena Labs) ซึ่งเน้นการใช้ USD สังเคราะห์ชื่อ USDe และ Staked USD หรือ sUSDE ในการสร้างรายได้ พอร์ตการลงทุนเหล่านี้จะถูกกระจายคืนสู่ผู้ใช้แพลตฟอร์มไบบิต โดยอาวาลอนมองว่าตนคือ ‘สะพานเชื่อมระหว่างการเงิน CeFi และ DeFi’

นักวิเคราะห์มองว่าการผสานระบบครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ ‘บิตคอยน์’ ขยับจากสินทรัพย์ที่ถูกถือครองไปสู่สินทรัพย์ที่ใช้สร้างผลิตภาพทางการเงินได้จริง ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากอีเธอนาแล็บส์ได้รับเงินลงทุนกว่า 1 ร้อยล้านดอลลาร์เมื่อต้นปี และแสดงแผนนำเสนอ iUSDe สินทรัพย์สังเคราะห์ที่เชื่อมโยงระบบการเงินดั้งเดิมกับคริปโตในอนาคตอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ไบบิตยังไม่ได้ออกความเห็นหรือให้คำแถลงการณ์ใด ๆ เกี่ยวกับความร่วมมือในครั้งนี้