ราคาบิตคอยน์(BTC) เคลื่อนไหวในกรอบแคบตลอด 5 วันที่ผ่านมา โดยผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่ารูปแบบนี้อาจดำเนินต่อไปอีกหลายวัน
ตามข้อมูลจาก Cointelegraph Markets Pro และ Bitstamp บิตคอยน์ซื้อขายอยู่ในช่วงระหว่าง 94,700 ดอลลาร์ ถึง 99,200 ดอลลาร์ โดยยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ระดับ 98,000 ดอลลาร์ถูกมองว่าเป็นแนวต้านสำคัญที่จำกัดการปรับตัวขึ้นของราคา
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสภาวะไร้ทิศทางของตลาดในครั้งนี้คือ นโยบายภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่ทรัมป์ประกาศใหม่ รัฐบาลของทรัมป์เตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอะลูมิเนียม 10% ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น ความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน รวมถึงตลาดคริปโต
นักวิเคราะห์บางส่วนเตือนว่าภาษีใหม่นี้อาจกระตุ้นเงินเฟ้อ ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ต้องคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ นโยบายดอกเบี้ยที่สูงมักส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย และลดความน่าสนใจในการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังการประกาศภาษีฉบับก่อนหน้า ตลาดคริปโตเผชิญกับการชำระบัญชีมูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์
อีกปัจจัยหนึ่งคือแนวโน้มทางเทคนิค ซึ่งชี้ว่าบิตคอยน์ยังคงซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (SMA) ที่ 99,709 ดอลลาร์ ขณะที่แนวรับสำคัญอยู่ที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (SMA) ที่ 95,825 ดอลลาร์ การเกิดแท่งเทียน Doji หลายครั้งตลอดช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา บ่งชี้ถึงความสมดุลระหว่างแรงซื้อและแรงขาย
สำหรับโอกาสในการฟื้นตัวของบิตคอยน์ นักวิเคราะห์มองว่าราคาจำเป็นต้องทะลุระดับ 100,000 ดอลลาร์ให้ได้เพื่อยืนยันแนวโน้มขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ยังขาดแรงผลักดันที่เพียงพอ และหากราคาหลุดแนวรับสำคัญ อาจเผชิญกับการปรับฐานที่ลึกลงไปอีก
ตลาดยังคงจับตานโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลทรัมป์และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ Fed อย่างใกล้ชิด โดยนักลงทุนกำลังรอดูว่าบิตคอยน์จะสามารถออกจากช่วงการปรับฐานนี้ได้เมื่อใด
ความคิดเห็น 0