ริปเปิล(XRP) กับ SEC ระงับคดี 60 วัน ส่อเค้าสู่ข้อตกลงใหญ่ก่อนเปิดทาง IPO

คดีความระหว่างริปเปิล(XRP) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) กำลังเข้าสู่เฟสใหม่ หลังศาลอุทธรณ์สหรัฐมีคำสั่งให้ ‘ระงับกระบวนการทางกฎหมาย’ เป็นเวลา 60 วัน ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ถึงทิศทางในอนาคตของคดีนี้

เมื่อวันที่ 24 สำนักข่าวในต่างประเทศรายงานว่า เจมส์ ฟาเลอร์ ทนายความสายคริปโตชื่อดัง ชี้ว่าการที่ทั้งริปเปิลและ SEC ยื่นคำร้องร่วมเพื่อระงับการพิจารณา เป็นสัญญาณของ ‘ความเปลี่ยนแปลงสำคัญ’ ที่อาจกำลังจะเกิดขึ้น

ฟาเลอร์เชื่อว่า ทั้งสองฝ่ายอาจกำลังเจรจาในสองประเด็นหลัก ได้แก่ ‘ข้อตกลงยุติคดีโดยสมบูรณ์’ และ ‘คำตัดสินเบื้องต้น’ โดยผู้พิพากษาแอนาลิซา ตอร์เรส ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดหลักว่า ริปเปิลจะสามารถขายโทเคนแบบปิดได้ภายใต้ข้อบังคับใหม่หรือไม่

การตีความใหม่เกี่ยวกับการขายโทเคนแบบจำกัด มีความสำคัญต่อแผนการทำ IPO ของริปเปิลอย่างยิ่ง เนื่องจากถ้าถูกจำกัดเรื่องการระดมทุนส่วนตัว ก็จะส่งผลให้การเข้าตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทต้องล่าช้าออกไป อีกทั้งยังทำให้เสียเปรียบต่อบริษัทคริปโตอื่นที่กำลังเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดทุนในปีนี้

ฟาเลอร์เสนอ 2 ทางเลือกที่อาจเกิดขึ้น สมมติกรณีริปเปิลยื่นข้อเสนอให้ SEC แล้วอีกฝ่ายยอมรับ แต่ยังคงปฏิเสธการแก้ไขกฎระเบียบ ที่จะเอื้อให้ริปเปิลขายโทเคนได้ต่อไป กรณีนี้คดีจะสิ้นสุดและอุทธรณ์จะถูกยุติ แต่ริปเปิลต้องยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาตอร์เรสรับรองการเปลี่ยนแปลงกฎแยกต่างหาก ซึ่งอาจกินเวลาอีก 3-6 เดือน หรือมากกว่านั้น และไม่มีหลักประกันว่าจะได้รับอนุมัติ

อีกทางเลือกหนึ่งมีความซับซ้อนแต่เปิดโอกาสมากขึ้น หาก SEC ยอมรับ ‘ทั้งข้อตกลงและการเปลี่ยนกฎ’ กรณีนี้จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของผู้พิพากษาตอร์เรส และใช้เวลาตัดสินไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับความเร็วของศาล

หากทั้งสองฝ่ายสามารถเข้าข้อตกลงได้อย่างสมบูรณ์ การอุทธรณ์จะถูก ‘ยกเลิกภายในหนึ่งเดือน’ แต่หากต้องรอยื่นคำร้องจากฝั่งริปเปิลเอง อาจต้องใช้เวลานานกว่านั้น

หากไม่มีข้อตกลงเกิดขึ้น คดีจะกลับเข้าสู่ศาลอุทธรณ์ ซึ่งอาจลากยาวจนถึงปลายปี 2026 หรือต้นปี 2027 ทั้งนี้ SEC มีกำหนดออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ ทำให้ทั้งวงการกฎหมายและคริปโตต่างจับตาอย่างใกล้ชิด

*ความคิดเห็น*: หาก SEC และริปเปิลสามารถหาจุดร่วมกันได้ นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการสร้างบรรทัดฐานใหม่ของการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ