ยูเรเนียมไอโอเปิดตัวโทเคนยูเรเนียมรายแรกของโลก นักลงทุนเริ่มต้นได้เพียง 4 ดอลลาร์

ยูเรเนียมไอโอ(Uranium.io) เปิดตัวบริการโทเคนแบบมีสิ่งรองรับจริงด้วยยูเรเนียมเป็นครั้งแรกของโลก ที่งานปารีสบล็อกเชนวีค โดย เบน เอลบิจี หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทเผยว่า นักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนในยูเรเนียมได้ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 4 ดอลลาร์

ก่อนหน้านี้ ‘ยูเรเนียม’ ถือเป็นตลาดที่ยากต่อการเข้าถึงของนักลงทุนทั่วไป เนื่องจากดำเนินการผ่านช่องทางซื้อขายนอกตลาด (OTC) และมีขนาดซื้อขายขั้นต่ำสูงถึง 100,000 ปอนด์ หรือราว 6 ล้านดอลลาร์ เอลบิจีกล่าวว่า “ยูเรเนียมเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญ แต่ที่ผ่านมาเข้าถึงยากมาก”

ยูเรเนียมไอโอพัฒนาโครงการร่วมกับมูลนิธิเทซอส โดยซื้อยูเรเนียมในปริมาณย่อยเก็บไว้ในคลังที่ได้รับการรับรอง และทำการ ‘โทเคนไนซ์’ หรือเปลี่ยนให้กลายเป็นโทเคนดิจิทัล ส่งผลให้นักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนในยูเรเนียมจริงได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางที่ซับซ้อน ด้วยเงินเพียงไม่กี่เหรียญ

การออกแบบระบบยึดตามกรอบกฎหมายทรัสต์ของอังกฤษ สามารถแสดงความเป็น ‘เจ้าของบางส่วน’ ของยูเรเนียมจริงได้ ยูเรเนียมที่ใช้ในการออกโทเคนนั้นถูกจัดเก็บไว้ในหนึ่งในสามคลังเก็บที่ได้รับการอนุมัติทั่วโลก คือ Cameco โดยมีบริษัท Curzon Uranium เป็นผู้ดูแลกระบวนการนี้

ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกระเป๋าเงิน MetaMask และใช้เหรียญ USDC ทำการซื้อโทเคนผ่านแพลตฟอร์มโดยตรง โดยระบบมีเครื่องมือวิเคราะห์ออนเชนเพื่อจับตาความเคลื่อนไหวที่น่าสงสัย และจะทำการยืนยันตัวตน (KYC) ก็ต่อเมื่อเกิดปัญหาเท่านั้น โทเคนแต่ละหน่วยแทนยูเรเนียมของจริง และในบางกรณียังสามารถขอรับยูเรเนียมจริงจากคลังได้ หากผู้ถือผ่านการตรวจสอบที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการแพร่ขยายอาวุธ

เอลบิจีเน้นว่าความ *โปร่งใส* คือจุดแข็งสำคัญของบริการนี้ โดยระบบของยูเรเนียมไอโอสามารถแสดงราคาแบบ *เรียลไทม์* ผ่านการซื้อขายโทเคน ในขณะที่ราคายูเรเนียมก่อนหน้านี้จะอัปเดตในช่วงเวลาทำการสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรเท่านั้น และยังพึ่งพาการรายงานโดยสมัครใจจากโบรกเกอร์

พื้นฐานของตลาดยูเรเนียมยังเสริมภาพลักษณ์ว่าเป็นการลงทุนระยะยาวที่น่าสนใจ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์(MSFT), แอมะซอน(AMZN) และกูเกิล(GOOG) เริ่มให้ความสำคัญกับพลังงานนิวเคลียร์ในฐานะแหล่งพลังงานที่เสถียร พร้อมกันนี้หลายรัฐบาลทั่วโลกก็กลับมาผลักดันนโยบายด้านพลังงานนิวเคลียร์อย่างจริงจัง โดยในปี 2023 ความต้องการยูเรเนียมอยู่ที่ 194 ล้านปอนด์ แต่มีอุปทานเพียง 155 ล้านปอนด์เท่านั้น

เอลบิจีระบุเพิ่มเติมว่า ยูเรเนียมไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับ ‘บิตคอยน์(BTC)’, ‘ดัชนี S&P500’, ‘ทองคำ’ หรือ ‘น้ำมัน’ ซึ่งทำให้นับเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะสำหรับการ *กระจายความเสี่ยง* ในช่วงตลาดผันผวน โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนในโลกคริปโตที่ต้องการความมั่นคงมากขึ้นในภาวะ *risk-off*